xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ยิวสั่งเพิ่มบทลงโทษ “คนปาหิน” หลังมุสลิมปาเลสไตน์ปะทะเดือดจนท.ความมั่นคงที่ “มัสยิดอัล-อักซอ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจ้าหน้าที่ความมั่นคงอิสราเอลถืออาวุธคุ้มกันชาวยิวในเขตเมืองเก่าของนครเยรูซาเล็ม ระหว่างที่มีการปะทะกับชาวปาเลสไตน์ เมื่อวันที่ 15 ก.ย.
เอเอฟพี – นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ประกาศเพิ่มบทลงโทษคนที่ “ปาหิน” ทำร้ายผู้อื่นในวันนี้ (16 ก.ย.) หลังเหตุการณ์ปะทะระหว่างชาวปาเลสไตน์กับกองกำลังความมั่นคงบริเวณรอบๆ มัสยิดอัล-อักซอในนครเยรูซาเล็มยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 3

“รัฐบาลตัดสินใจเพิ่มมาตรการเข้มงวดในหลายพื้นที่ และจะพิจารณาปรับเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ รวมถึงกำหนดบทลงโทษขั้นต่ำสำหรับผู้ที่ปาหิน” เนทันยาฮู กล่าวระหว่างเปิดการประชุมรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเป็นกรณีฉุกเฉิน เมื่อวานนี้ (15)

ผู้นำอิสราเอลยังเตือนด้วยว่า ผู้เยาว์ที่มีส่วนร่วมกระทำความผิด รวมถึงบิดามารดาของพวกเขา จะถูกสั่งปรับเป็นวงเงินไม่น้อย

เหตุกระทบกระทั่งระหว่างชาวมุสลิมปาเลสไตน์กับกองกำลังความมั่นคงอิสราเอลบริเวณมัสยิด อัล-อักซอ และในเขตเมืองเก่าที่อยู่รอบๆ ยังคงดุเดือดเป็นวันที่ 3 แม้จะมีเสียงเรียกร้องจากนานาชาติให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้นก็ตาม

ผู้ประท้วงวัยรุ่นได้ขว้างปาก้อนหินใส่ตำรวจอิสราเอลที่บุกเข้าไปในเขตมัสยิด และถูกเจ้าหน้าที่ตอบโต้ด้วยระเบิดเสียง (stun greanades)

องค์กรวากัฟของรัฐบาลจอร์แดนซึ่งทำหน้าที่บริหารมัสยิด อัล-อักซอ ระบุว่า ตำรวจอิสราเอลบุกเข้าไปถึงภายในตัวมัสยิด และสร้างความเสียหายขึ้น

“ก่อนวันปีใหม่ยิว 1 วัน เราได้ประจักษ์กันแล้วว่า ก้อนหินสามารถฆ่าคนได้” เนทันยาฮู กล่าว โดยอ้างถึงคนขับรถชาวอิสราเอลที่ถูกขว้างก้อนหินใส่ในนครเยรูซาเล็มเมื่อวันอาทิตย์(13) จนกระทั่งรถยนต์เสียหลัก

กองทัพอิสราเอลเข้ายึดเมืองเก่า (Old City) หรือเยรูซาเล็มตะวันออกที่เคยถูกปกครองโดยจอร์แดนในวันที่ 3 ของ "สงคราม 6 วัน" เมื่อปี 1967 จากนั้นก็ผนวกเข้าเป็นดินแดนของรัฐอิสราเอลโดยที่นานาชาติไม่ให้การยอมรับ

ในการประชุมฉุกเฉินเมื่อค่ำวันอังคาร (15) ซึ่งมีรัฐมนตรีกลาโหม โมเช ยาลอน และรัฐมนตรียุติธรรม อาเยเล็ต ชาเก็ด ของอิสราเอลเข้าร่วมหารือด้วยนั้น เนทันยาฮู ยืนกรานว่า จะต้องรักษา “สถานะในปัจจุบัน” ของมัสยิด อัล-อักซอ ไว้ และจะไม่ยอมให้ “พวกสร้างปัญหา” มาก่อกวนชาวยิวที่จะเดินทางไปยังศาสนสถานสำคัญแห่งนี้

อาณาเขตทั้งหมดของมัสยิดอัล-อักซอ หรือที่ชาวมุสลิมเรียกขานว่า “อัล-หะรอม อัล-ชารีฟ” เป็นศาสนสถานที่สำคัญเป็นอันดับ 3 รองจากนครเมกกะ และเมืองมะดีนะห์ในซาอุดีอาระเบีย

อย่างไรก็ตาม ชาวยิวก็ถือว่าสถานที่นี้คือ “เนินวิหาร” (Temple Mount) ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิหารกษัตริย์เฮรอดที่ถูกทำลายโดยกองทัพโรมันเมื่อราวคริสตศักราชที่ 70 และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในศาสนายิว

“อิสราเอลจะปกป้องสถานะในปัจจุบันของเนินวิหารเอาไว้” เนทันยาฮู กล่าวย้ำ

ตามเงื่อนไขในปัจจุบัน ชาวมุสลิมสามารถเข้าไปใช้พื้นที่ในมัสยิด อัล-อักซอ ได้ตามที่พวกเขาต้องการ ส่วนชาวยิวได้รับอนุญาตให้เข้าไปเป็นครั้งคราว ทว่าไม่สามารถสวดมนต์ได้ เนื่องจากเสี่ยงที่จะเกิดการกระทบกระทั่งกับชาวมุสลิม

นักท่องเที่ยวและชาวยิวมากกว่า 1,000 คนที่เดินทางไปยังมัสยิด อัล-อักซอ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ยิว ทำให้ชาวปาเลสไตน์และองค์กรมุสลิมเกรงว่า รัฐบาลอิสราเอลอาจยกเลิกกฎเกณฑ์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยแบ่งเวลาให้ชาวยิวเข้าไปใช้พื้นที่ในช่วงเช้า ส่วนมุสลิมเข้าได้เฉพาะช่วงเวลาอื่นๆ
เจ้าหน้าที่ความมั่นคงอิสราเอลใช้ระเบิดเสียง (stun grenades) ขับไล่ผู้ประท้วงชาวปาเลสไตน์ในเขตเมืองเก่าของนครเยรูซาเล็ม เมื่อวันที่ 15 ก.ย.
ชาวมุสลิมปาเลสไตน์ทำความสะอาดภายในมัสยิด อัล-อักซอ หลังเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงยิว
ชาวมุสลิมปาเลสไตน์ยืนมุงดูสภาพความเสียหายที่ด้านหน้ามัสยิด อัล-อักซอ หลังเกิดเหตุปะทะกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงอิสราเอล เมื่อวันที่ 15 ก.ย.

กำลังโหลดความคิดเห็น