รอยเตอร์ - นักศึกษาวัย 18 ปีคนหนึ่งใช้อาวุธสั้นปิดฉากยิงที่มหาวิทยาลัยนอร์ทเธิร์น แอริโซนา ในเมืองแฟลกสตาฟ ตอนเช้าวันศุกร์ (9 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น สังหาร 1 ศพ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 คน ก่อนถูกตำรวจรวบตัว กรณีล่าสุดของเหตุยิงกันที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งภายในสถาบันการศึกษาของสหรัฐฯ
เกรกอรี ฟาวเลอร์ ผู้บังคับการตำรวจมหาวิทยาลัยเปิดเผยว่า มือปืนคือนายสตีฟ โจนส์ เป็นนักศึกษาใหม่ของมหาวิทยาลัย โดยเขากวัดแกว่งปืนไปมาระหว่างเผชิญหน้ากับนักศึกษาชาย 3 คน และมีนักศึกษาได้รับบาดเจ็บจากบาดแผลกระสุน 3 คนจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งทั้งหมดถูกส่งตัวไปรักษาที่ศูนย์การแพทย์แฟลกสตาฟ เมดิตอล เซ็นเตอร์แล้ว
เหตุยิงกันคราวนี้เกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมง ก่อนหน้าประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ มีกำหนดเดินทางไปยังเมืองโรเบิร์ก มลรัฐออริกอน เพื่อเยี่ยมเยือนครอบครัวเหยื่อผู้เสียชีวิต 9 ศพจากเหตุกราดยิงหมู่ที่วิทยาลัยชุมชนแห่งหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นการส่วนตัว
โฆษกของมหาวิทยาลัยนอร์ทเธิร์น แอริโซนา เผยว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบริเวณลานจอดรถติดกับหอพักนักศึกษา ตอนเวลาประมาณ 1.20 น. ส่วนผู้บังคับการตำรวจของมหาวิทยาลัยเสริมว่า “เรายังไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าทำไมพวกเขาถึงมาอยู่ตรงนั้น หรืออะไรเป็นสาเหตุของการเผชิญหน้ากัน” แต่นายโจนส์ ไม่ได้พยายามหลบหนี ก่อนถูกควบคุมตัวและให้ความร่วมมือกับตำรวจเป็นอย่างดี
มหาวิทยาลัยนอร์ทเธิร์น แอริโซนา ไม่อนุญาตให้พกพาปืนเข้ามาในสถาบันการศึกษาภายใต้กฎหมายของแอริโซนา ขณะที่สถาบันการศึกษาแห่งนี้ซึ่งมีนักศึกษาราว 20,000 คนยังคงดำเนินการเรียนการสอนตามปกติในวันศุกร์(9ต.ค.) หลังมีการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัย
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ตอบสนองต่อเหตุสังหารหมู่ในออริกอน ด้วยประกาศยกระดับความพยายามควบคุมความรุนแรงจากอาวุธปืนในสหรัฐฯ ทว่าฝ่ายสมาคมสิทธิครอบครองอาวุธปืนต่างๆ กลับมองต่างมุม โดยบอกว่าเหตุกราดยิงที่ออริกอน ย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของสิทธิในการพกพาอาวุธและป้องกันตนเอง