เอเจนซีส์ – ผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนา นิกกี ฮาลลี (Nikki Haley) สั่งให้มีการบังคับใช้กฎหมายเคอร์ฟิวในช่วงกลางวันไปจนถึงวันจันทร์(5)เพื่อกันให้ประชาชนในพื้นที่ไม่ออกนอกบ้าน และสั่งการหน่วยทางน้ำเคลื่อนที่เร็ว 8 ทีม รวมไปถึงเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยฉุกเฉินอีก 11 ตัว และทหารเนชันแนลการ์ดประจำรัฐอีก 600 นายถูกสั่งลงปฎิบัติหน้าที่ หลังรัฐเซาท์แคโรไลนาต้อนรับเฮอริเคนระดับ 3 วาควิน(Joanquin)จนทำให้เกิดฝนพันปีตกหนักสูงสุดถึง 24 นิ้ว รวมไปถึงน้ำท่วมฉับพลัน ถนนตัดขาด ไฟฟ้าถูกตัดขาดเป็นวงกว้าง และทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 8 คน
วอลสตรีทเจอร์นัล สื่อธุรกิจรายงานเมื่อวานนนี้(4)ว่า ผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนา นิกกี ฮาลลี (Nikki Haley)ออกประกาศคำสั่งเคอร์ฟิวเวลากลางวัน เพื่อบังคับให้ประชาชนอยู่แต่ภายในบ้านเรือนของตนมาจนถึงวันทำงานในสัปดาห์นี้ หลังจากรัฐเซาท์แคโรไลนาต้องผจญกับ “ฝนพันปี” จากการเรียกขานของฮาลี ที่เกิดจากอิทธิพลพายุเฮอร์เคน “วาควิน” ซึ่งอ่อนกำลังลงเหลือแค่ระดับ 3 รวมไปถึงอิทธิพลพายุลูกอื่นๆที่พัดเข้ามา จนทำให้เกิดฝนตกหนักในบางแห่งในรัฐเซาท์แคโรไลนา ที่มีฝนตกหนักถึง 24 นิ้วบริเวณเมาต์ พลีแซนต์( Mount Pleasant) จากการรายงานของสื่อสหรัฐฯ CNN
และยังพบว่า มีฝนตกหนักไม่ต่ำกว่า 20 นิ้วบริเวณชาร์ลสตัน( Charleston) และไม่ต่ำกว่า 18 นิ้วบริเวณ กิลลส์ ครีก(Gills Creek)ในเมืองโคลัมเบีย รัฐเซาท์แคโรไลนา
ในขณะที่เดลีเมล สื่ออังกฤษรายงายเพิ่มเติมว่า นับตั้งแต่เกิดฝนตกหนักในบริเวณอีสเทิร์นซีบอร์ดสหรัฐฯมีคนเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 6 คน
และนอกจากนี้ยังพบว่า ทั้งในรัฐนอร์ทแคโรไลนาและรัฐเซาท์แคโรไลนา มีตัวเลขผู้เสียชีวิตอีกไม่ต่ำกว่า 8 คนสืบเนื่องมาจากสภาพอากาศเลวร้าย โดย 4 คนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ และมีจำนวนหนึ่งในทั้งหมดเสียชีวิตจากต้นไม้ล้มทับ รวมไปถึงอีก 1 คนเสียชีวิตจากการจมน้ำ อ้างอิงจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯในพื้นที่
CNN สื่อสหรัฐฯรายงานเพิ่มเติมว่า เดอร์เรค เบค (Derrec Becke) หัวหน้าหน่วยงานภัยพิบัติรัฐเซาท์แคโรไลนาได้ออกคำเตือน ห้ามประชาชนเซาท์แคโรไลนาอยู่ให้ห่างถนนในช่วงนี้
โดยเบคเปิดเผยว่า มีรถอย่างน้อย 315 คันเกิดอุบัติเหตุในช่วงเวลา 12 ชม. ในวันอาทิตย์(4) ในขณะที่ผู้ว่าการรัฐฮาลลีเปิดเผยว่าในช่วงเวลเดียยวกันนั้นมีนักขับกว่า 750 คนโทรศัพท์สายด่วนขอความช่วยเหลือ
และในการรับมือเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งร้ายแรงนี้ ผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนาได้สั่งการหน่วยทางน้ำเคลื่อนที่เร็ว 8 ทีม รวมไปถึงเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยฉุกเฉินอีก 11 ตัว และทหารเนชันแนลการ์ดประจำรัฐอีก 600 นายถูกสั่งลงปฎิบัติหน้าที่ และอีก 1,300 นายถูกสั่งสำรองกำลังพร้อมเรียกใช้
และ 1 วันก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ได้เซ็นคำสั่งภาวะฉุกเฉินในรัฐเซาท์แคโรไลนาให้มีอำนาจย้อนหลังกลับไปในวันพฤหัสบดี( 1)เพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯละหน่วยงานท้องถิ่นสามารถเริ่มต้นทำงานรับมือรับฝนพันปีจากฝีมือของพายุเฮอริเคนวาควินได้ทันท่วงที หลังจากที่มีการคาดว่า อาจมีฝนตกหนักเพิ่มมากไปกว่านี้
นิกกี ฮาลลี แถลงเพิ่มเติมว่า รัฐที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง เช่น รัฐนอร์ทแคดรไลนา รัฐเทนเนสซี และรัฐฟลอลิดา ได้ประกาศยื่นมือให้ความช่วยเหลือ
ทั้งนี้หน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯด้านสภาพอากาศให้ข้อมูลว่า คาดว่าจะยังมีน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่เกิดขึ้นตลอดทั้งคืนวันอาทิตย์(4)จนเข้ามาถึงวันนี้(5)ในเบิร์กลี เคาน์ตี (Berkeley County) รัฐเซาท์แคโรไลนา ซึ่งมีในตกไม่ต่ำกว่า 18 นิ้วภายใน 24 ชม.
วอลสตรีทเจอร์นัลรายงานเพิ่มเติมถึงสภาพน้ำท่วมฉับพลันในรัฐเซาท์แคโรไลนาจากแถลงการณ์ของผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนาบนเฟสบุ๊กว่า “น้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรัฐแห่งนี้ เพราะน้ำท่วมใหญ่ขนาดนี้เกิดเพียงแค่ทุกพันปีเท่านี้”
และน้ำท่วมฉับพลันในเมืองโคลัมเบีย รัฐเซาท์แคโรไลนาทำให้เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพประจำริชแลนด์ เคาน์ตี (Richland County ) แกรี วัตต์ส(Gary Watts)เปิดเผยว่า 3 ใน 5ของผู้เสียชีวิตที่เมืองโคลัมเบียเกิดจากน้ำท่วมฉับพลัน เนื่องจากคลื่นน้ำสูงทำให้รถยนต์ตกจากถนนลงป่าข้างทาง หรือน้ำลึกเบื้องล่าง
นอกจากนี้มีรายงานว่า รถจำนวนมาก ที่รวมไปถึงรถบรรทุกขนาดใหญ่ยังคงต้องตายคาถนนในสภาพจมน้ำเกือบมิด และทำให้มีความกังวลว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยฉุกเฉินอาจไม่สามารถสังเกตเห็นได้โดยง่าย
CNN รายงานเพิ่มเติมว่า เฮอริเคนวาควินที่อ่อนกำลังลงเหลือเพียงระดับ 3 ในช่วงเช้าวันอาทิตย์(4)หลังจากเพิ่มกำลังแรงถึงระดับ 4 ในวันพฤหัสบดี(1)ก่อนหน้านั้น และคาดว่าจะอ่อนกำลังลงไปเรื่อยในขณะที่บ่ายหน้าไปยังเกาะเบอร์มิวดา
CNNรายงานต่อว่า เมื่อวานนี้(4)วาควินมุ่งหน้าไปทางเหนือในมหาสมุทรแอตแลนติก และคาดว่าอาจทำให้เกิดกำแพงคลื่นสูงที่เรียกว่า “สตอร์มเสิร์จ” ทางตะวันออกเฉียงเหนือขณะที่เฮอริเคนวาควินพัดผ่าน