เอเอฟพี – ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุดินถล่มในหมู่บ้านชานกรุงกัวเตมาลาซิตีเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 131 รายเมื่อวานนี้ (4 ต.ค) และยังมีชาวบ้านสูญหายอีกราว 300 คน หลังเหตุการณ์ภัยพิบัติผ่านพ้นไปได้ 3 วัน
ฮูลิโอ ซานเชซ โฆษกอาสาจากสำนักงานดับเพลิง ระบุว่า “จากข้อมูลล่าสุด พบผู้เสียชีวิตที่ยืนยันและเก็บกู้ขึ้นมาได้แล้ว 131 ราย” และยังมีคนสูญหายไม่ทราบชะตากรรมอีกประมาณ 300 คน
ชานเชซ เผยต่อสื่อมวลชนว่า ผู้เสียชีวิตในเหตุดินถล่มทับหมู่บ้าน เอล คัมบรีย์ 2 ในเขตเทศบาลเมือง ซานตา คาตารินา พินูลา ยังรวมถึงเด็กเล็กและทารกแรกเกิดอีกหลายคน
สายฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนักทำให้พื้นดินอุ้มน้ำไม่ไหว และพังถล่มลงมาทับบ้านเรือนอย่างน้อย 125 หลังเมื่อค่ำวันพฤหัสบดีที่แล้ว (1)
ทางการกัวเตมาลาได้ตั้งโกดังเก็บศพชั่วคราวไว้ใกล้ๆ หมู่บ้าน เพื่อให้ญาติผู้สูญหายสามารถเดินทางไปตรวจสอบได้
เทศบาลเมือง ซานตา คาตารินา พินูลา ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงกัวเตมาลาไปทางตะวันออกราว 15 กิโลเมตร เคยประกาศเตือนให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่นี้มาแล้วหลายครั้ง ล่าสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว แต่หลายครอบครัวปฏิเสธที่จะย้าย โดยอ้างว่าพวกเขาไม่มีที่ไป
“เราคงอาศัยอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกแล้ว” คาร์ลอส เฮอร์นันเดซ ช่างไฟฟ้าซึ่งรอดชีวิตจากเหตุดินถล่มและเหลือทรัพย์สินติดตัวเพียงเล็กน้อย ให้สัมภาษณ์
ฝนซึ่งตกลงมาอีกเมื่อช่วงเย็นวันอาทิตย์ (4) ทำให้หน่วยกู้ภัยต้องยุติการค้นหาชั่วคราว เนื่องจากมีความเสี่ยงอันตราย แต่ทุกๆ ชั่วโมงที่ผ่านไป โอกาสที่จะพบผู้รอดชีวิตเพิ่มก็ยิ่งลดน้อยลงตามไปด้วย ทั้งนี้ ระยะเวลา 72 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุการณ์ซึ่งถือว่ามีโอกาสสูงที่จะพบผู้รอดชีวิตกำลังจะผ่านพ้นไปในเวลา 4.00 GMT วันนี้ (5)
ครอบครัวผู้สูญหายหลายคนอ้างว่า ได้รับข้อความโทรศัพท์มือถือจากญาติที่เชื่อว่าน่าจะยังติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง
ปีที่แล้ว มีชาวกัวเตมาลาเสียชีวิตจากภัยพิบัติในฤดูมรสุมรวม 29 คน และบ้านเรือนพังเสียหายอีกมากกว่า 9,000 หลัง
สงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อนานถึง 36 ปีและเพิ่งสิ้นสุดลงได้เมื่อปี 1996 ยังส่งผลกระทบต่อสภาพสังคมของกัวเตมาลา และประชากรร้อยละ 53 จากทั้งหมด 16 ล้านคนก็ยังมีฐานะยากจน
นอกจากปัญหาความยากจนและการคอรัปชันแล้ว กัวเตมาลายังมีสถิติอาชญากรรมรุนแรงที่ค่อนข้างสูง และมีการฆ่ากันตายโดยพวกแก๊งอันธพาลมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก