รอยเตอร์ / เอพี / เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 ราย หลังเกิดเหตุกราดยิงหลายจุดกลางเมืองหลวงของบุรุนดีในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ด้านหน่วยงานความมั่นคงของทางการบุรุนดียังไม่ฟันธงว่าเหตุรุนแรงระลอกล่าสุดมีความเกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมืองหรือไม่
รายงานข่าวระบุว่า นอกเหนือจากเสียงปืนแล้วยังมีเสียงระเบิดดังขึ้นในหลายพื้นที่ของกรุงบูจุมบูรา เมืองหลวงของบุรุนดีตั้งแต่เมื่อคืนวันเสาร์ (3 ต.ค.) ต่อเนื่องจนถึงวันอาทิตย์ (4 ต.ค.) ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์ว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นพลเรือน ซึ่งบางรายถูกจับมัดมือก่อนจะถูกจ่อยิงแบบเผาขน
ที่ผ่านมากลุ่มเคลื่อนไหวของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลออกโรงกล่าวหารัฐบาลบุรุนดีว่าทำการปราบปรามประชาชนด้วยความรุนแรงหลายต่อหลายครั้ง นับตั้งแต่ที่มีการลุกฮือของประชาชนออกมารวมตัวกันตามท้องถนนเมื่อเดือนพฤษภาคม เพื่อแสดงพลังขัดขวางความพยายามของประธานาธิบดีปิแอร์ เอ็นคูรุนซิซา ที่พยายามอยู่ในอำนาจต่อเป็นสมัยที่ 3 ทั้งที่ขัดต่อบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญของประเทศ ก่อนที่ตัวเขาจะดื้อดึงลงสมัครรับเลือกตั้งและคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมซึ่งเป็นการเลือกตั้งที่ถูกระบุว่าเต็มไปด้วยกลโกงและเรื่องฉ้อฉล
รายงานข่าวระบุว่า ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลบุรุนดี ได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ และอีกหลายองค์กรทั่วโลกให้เร่งสอบสวนเอาผิดกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคงของตนที่ก่อเหตุสังหารและทรมานประชาชน รวมถึงการกระทำของตำรวจที่อยู่เบื้องหลังการจับตัวประชาชนด้วยข้อหาทางการเมือง
สำหรับเหตุรุนแรงระลอกล่าสุดที่เริ่มปะทุขึ้นตั้งแต่วันเสาร์ (3) นั้น มีรายงานว่าพบผู้เสียชีวิตจำนวน 6 รายที่เขตซิบิโตเก และอีก 2 รายที่เขตมูตาคูรา ซึ่งทั้งสองเขตที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงบูจุมบูรานี้ ถือเป็นศูนย์กลางของการประท้วงต่อต้านประธานาธิบดีปิแอร์ เอ็นคูรุนซิซาในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ บุรุนดีมีอันต้องเผชิญกับภาวะวิกฤตทางการเมืองครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดยุคสงครามกลางเมืองเป็นต้นมา โดยที่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันของประเทศได้กำหนดวาระในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเอาไว้เพียง 2 สมัย เพื่อป้องกันมิให้เกิดความพยายามในการผูกขาดอำนาจทางการเมืองที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่