เอเจนซีส์ - พายุถล่ม “เฟรนช์ ริเวียรา” ส่งผลให้เกิดอุทกภัยใหญ่ตามมา เจ้าหน้าที่เผยพบผู้เสียชีวิต 16 รายเมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ (4 ต.ค.) ในจำนวนนี้รวมถึงเหยื่อ 3 คนที่จมน้ำตายในบ้านพักคนชรา หลังน้ำเอ่อล้นจากแม่น้ำเข้าท่วม ขณะที่อีก 5 รายเชื่อว่า เสียชีวิตขณะพยายามนำรถเข้าจอดในที่ปลอดภัย กับอีก 3 รายจมอยู่ในรถที่ติดอยู่ในอุโมงค์
น้ำที่ท่วมอย่างหนักตลอดแนวชายฝั่งของโกต ดาซูร์ (เฟรนช์ ริเวียรา) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส เกิดจากการที่น้ำจากแม่น้ำบรากูว์ทะลักล้นตลิ่งใกล้กับเมืองอองทีบส์ ทำให้เกิดคลื่นโถมเข้าใส่บ้านพักคนชราที่อยู่ในบริเวณนั้น
นอกจากนี้ยังมีหญิงวัย 60 ปีคนหนึ่งเสียชีวิตบนถนนในเมืองคานส์เมื่อคืนวันเสาร์ (3) ขณะที่พายุใหญ่เข้าถล่ม ทำให้น้ำและซากปรักหักพังไหลเข้าท่วมบ่าถนนของเมืองที่เป็นสถานที่จัดงานประกวดภาพยนตร์ชื่อดังแห่งนี้ รวมถึงเมืองนีซที่อยู่ติดกัน
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเผยว่า ผู้เสียชีวิตอีกรายถูกพบที่สถานที่ตั้งแคมป์ในอองทีบส์
ดาวีส์ ลิสนาร์ นายกเทศมนตรีคานส์เผยว่า มีรถยนต์บางคันถูกน้ำพัดลงทะเล และเสริมว่าน้ำท่วมสูงถึงครึ่งประตูรถ ขณะที่ต้นไม้จำนวนหนึ่งถูกพายุพัดล้มกีดขวางถนนสายหลักของเมือง
นายกเทศมนตรีคานส์เสริมว่า เจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือประชาชนจำนวนมาก ควบคู่ไปกับเฝ้าระวังการปล้น ขณะนี้ได้ประกาศใช้แผนการฉุกเฉินแล้วเพื่อระดมกำลังตำรวจ ชุดปฏิบัติการฉุกเฉินเบื้องต้น และบริการต่างๆ ของเมืองเข้ารับมือสถานการณ์นี้
ทั้งนี้ แบร์นาร์ กาเซเนิฟ รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศส ได้เดินทางไปยังพื้นที่ประสบภัยในช่วงเช้าวันอาทิตย์เพื่อบัญชาการการกู้ภัย
ทางด้านประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ แถลงขอบคุณหน่วยกู้ภัยและนักการเมืองที่ช่วยกันปฏิบัติภารกิจรับมือภัยพิบัตินี้ ซึ่งสะท้อนถึงความสามัคคีของประเทศ ผู้นำแดนน้ำหอมยังแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ ขณะที่นายกรัฐมนตรีมานูเอล วาลส์ แสดงความเสียใจสุดซึ้งหลังได้รับข่าวว่า มีผู้เสียชีวิต
พื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติรุนแรงที่สุดคือบริเวณที่เข้าถึงยากที่สุด และเพิ่มความเป็นไปได้ที่อาจมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากขึ้น ขณะที่บ้านเรือน 35,000 หลังคาเรือนได้รับการยืนยันว่า ไม่มีไฟฟ้าใช้
เอสเอ็นซีเอฟ ผู้ให้บริการรถไฟของฝรั่งเศส ประกาศหยุดการเดินรถประมาณ 6 สายกลางคันเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ขณะที่ยังมีผู้โดยสารอยู่บนรถไฟนับร้อยคน นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ถนนรอบอองทีปส์มีน้ำท่วมขัง
โฆษกหญิงของหน่วยดับเพลิงแถลงว่า สถานที่ตั้งแคมป์ถูกน้ำท่วมเช่นเดียวกัน และทางการได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำออกตรวจสอบความปลอดภัยของประชาชน เนื่องจากมีประชาชนจำนวนหนึ่งต้องหนีขึ้นไปอยู่บนหลังคารถคาราวาน
นอกจากนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวจำนวนถึง 500 คน ซึ่งรวมถึงนักท่องเที่ยวอังกฤษและเดนมาร์ก เข้าไปหลบภัยในสนามบินนีซ และการแข่งขันฟุตบอลระหว่างนีซและนองต์ต้องพักกลางคันเนื่องจากมีฝนตกหนัก
สำนักงานพยากรณ์อากาศของฝรั่งเศสระบุว่า พายุหนักที่สุดพัดผ่านฝรั่งเศสไปแล้วและมุ่งหน้าสู่ชายฝั่งอิตาลี
ขณะเดียวกัน สำนักนายกเทศมนตรีนีซประเมินว่า เฉพาะช่วง 2 วันที่ผ่านมามีปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาถึง 10% ของปริมาณเฉลี่ยตลอดทั้งปี