xs
xsm
sm
md
lg

ทหารรัฐบาลซูดานใต้ปะทะเดือดฝ่ายกบฏ สังเวยอย่างน้อย 52 ศพ ส่งผลข้อตกลงสันติภาพกลายเป็นหมัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอพี / เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - เกิดการสู้รบกันอย่างหนักหน่วงระหว่างทหารรัฐบาลซูดานใต้กับกองกำลังของฝ่ายกบฏในพื้นที่รัฐยูนิตี้ เป็นเหตุให้มีกำลังพลของทั้งสองฝ่ายเสียชีวิตรวมกันอย่างน้อย 52 ราย

รายงานข่าวล่าสุดในวันเสาร์ (3 ต.ค.) ซึ่งอ้างแหล่งข่าวในกองทัพซูดานใต้ระบุว่า เหตุปะทะกันระลอกล่าสุดที่ดำเนินมานานกว่า 6 วัน และทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 52 รายนั้น ได้เปิดฉากขึ้นก่อนโดยฝ่ายกบฏที่หนุนหลังอดีตรองประธานาธิบดีรีค มาชาร์ เป็นฝ่ายเริ่มโจมตีที่มั่นของทหารรัฐบาลซูดานใต้ที่ภักดีต่อประธานาธิบดีซัลวา คิอีร์

ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นล่าสุดในซูดานใต้ถือเป็นการส่งสัญญาณว่า ข้อตกลงสันติภาพที่เพิ่งมีการลงนามกันไปเมื่อเดือนที่แล้วระหว่างฝ่ายกบฏและฝ่ายรัฐบาล มีอันต้องถูกฉีกอย่างไม่เป็นท่า

เบื้องต้นมีรายงานว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 52 รายจากการปะทะกันรอบล่าสุดที่ปะทุขึ้นตั้งแต่วันจันทร์ (28 ก.ย.) ที่ผ่านมานั้น เป็นทหารของฝ่ายรัฐบาลอย่างน้อย 14 นาย ขณะที่นักรบฝ่ายกบฏถูกสังหารไปถึง 38 ราย และมีนักรบฝ่ายกบฏถูกจับตัวได้อีก 2 คน

ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวซึ่งอ้างคำแถลงของสำนักงานสหประชาชาติเพื่อภารกิจในซูดานใต้ (UNMISS) ที่ระบุว่า จนถึงขณะนี้มีพลเรือนชาวซูดานใต้จำนวนมากกว่า 199,600 ชีวิตที่เข้ามาขอลี้ภัย อยู่ภายในฐานปฏิบัติการจำนวน 8 แห่งของสหประชาชาติทั่วซูดานใต้ รวมถึงในกรุงจูบา ที่เป็นเมืองหลวงของประเทศ

ข้อมูลล่าสุดของทางยูเอ็นระบุว่า ฐานปฏิบัติการของยูเอ็นที่เมืองเบนติว เมืองเอกของรัฐยูนิตี ถือเป็นจุดที่มีพลเรือนชาวซูดานใต้เข้ามาลี้ภัยอยู่มากถึง 121,000 ราย โดยพื้นที่รัฐยูนิตี้แห่งนี้ถือเป็นจุดที่มีการสู้รบกันอย่างหนักหน่วงที่สุดระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายกบฏในช่วงที่ผ่านมา

จนถึงขณะนี้ ทางองค์การสหประชาชาติระบุว่า สงครามกลางเมืองซูดานใต้ที่อุบัติขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2013 ได้ส่งผลให้ประชาชนมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์จากทั้งหมด 12 ล้านคนของซูดานใต้ ตกอยู่ในภาวะที่ต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน

ขณะที่ชาวซูดานใต้จำนวน 2.2 ล้านคนต้องอพยพละทิ้งบ้านเรือนของตนเพื่อเอาชีวิตรอด และมากกว่า 600,000 คน ได้อพยพเข้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่รายรอบซูดานใต้ ทั้งเอธิโอเปีย เคนยา ซูดาน และยูกันดา

ทั้งนี้ ซูดานใต้ซึ่งประกาศเอกราช แยกตัวออกมาจากซูดานเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2011 มีอันต้องถลำเข้าสู่ความวุ่นวายไร้ขื่อแป ตั้งแต่เมื่อเดือนธันวาคมปี 2013 หลังเกิดการสู้รบที่บานปลายกลายเป็นสงครามกลางเมืองระหว่างกองกำลังที่หนุนฝ่ายประธานาธิบดีซัลวา คิอีร์ กับฝ่ายอดีตรองประธานาธิบดีรีค มาชาร์

ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติระบุว่า สงครามกลางเมืองในซูดานใต้ ได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วหลายพันคน ขณะที่มากกว่า 2 ล้านคนต้องกลายสภาพเป็น “ผู้อพยพ”