เอเอฟพี - รัฐมนตรีมหาดไทยของรัฐบาวาเรีย ทางภาคใต้ของเยอรมนีเปิดเผยเมื่อวันพุธ (30 ก.ย.) ว่าเฉพาะเดือนกันยายน มีผู้ลี้ภัยหลั่งไหลเข้ามายังเมืองเบียร์ราว 270,000 ถึง 280,000 คน มากกว่ายอดรวมตลอดทั้งปี 2014 เสียอีก
“จากตัวเลขปัจจุบัน เราคาดคะเนว่าในเดือนกันยายน 2015 มีผู้ลี้ภัยราว 270,000 ถึง 280,000 คนเข้ามายังเยอรมนี” โจอาคิม เฮอร์มันน์ รัฐมนตรีมหาดไทยของรัฐบาวาเรียกล่าว
ชาติเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่สุดของยุโรปแห่งนี้บันทึกผู้ลี้ภัยขาเข้าตลอดทั้งปี 2014 ได้ที่ราวๆ 200,000 คน และด้วยจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันในปีนี้ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต้องเร่งรีบลงทะเบียนผู้ลี้ภัย เช่นเดียวกับจัดเตรียมที่พัก อาหารและการดูแลพื้นฐานแก่ผู้ลี้ภัยรายใหม่ที่เพิ่งเดินทางมาถึง
เฮอร์มันน์ เน้นให้เห็นถึงความกดดันที่รัฐบาลของรัฐบาวาเรียต้องเผชิญ เนื่องจากดินแดนแห่งนี้เป็นประตูหลักในการเข้าสู่เยอรมนีของพวกผู้ลี้ภัยที่เดินทางมาจากเหล่าประเทศทางตะวันตกของคาบสมุทรบอลข่านและฮังการี
“เพื่อนร่วมงานในกระทรวงมหาดไทยของผมยืนยันว่าอีกไม่นานนี้มันจะเกินขีดจำกัดที่เราจะสามารถรองรับได้” เขากล่าว “มันสำคัญยิ่งที่ต้องลดแรงกดดันด้านผู้อพยพตามแนวชายแดนของเยอรมนีในทันที” เขากล่าว
ในขณะที่เยอรมนีคาดหมายว่าอาจต้องแบกรับผู้ลี้ภัยสูงสุดถึง 1 ล้านคนในปีนี้ ความกรุณาของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ต่อผู้อพยพ กลับจุดชนวนความไม่ลงรอยกันภายในรัฐบาลผสมของเธอ
CSU พรรคอนุรักษนิยมที่ปกครองรัฐบาวาเลีย พันธมิตรของนางแมร์เคิล ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์นโยบายดังกล่าวและเตือนว่าอาจเข้าสู่สถานการณ์ที่เกินกว่าทรัพยากรจะรองรับไหว
เวลานี้เบอร์ลินกำลังยกระดับดำเนินการยับยั้งผู้อพยพทางเศราฐกิจที่หวังได้สิทธิ์ลี้ภัยในประเทศ ในความพยายามจำกัดทรัพยากรให้เพียงพอเพื่อรับมือกับเหล่าผู้ยื่นของลี้ภัยจากประเทศต่างๆ ที่ถูกฉีกขาดจากสงครามอย่างเช่นซีเรีย
เมื่อวันอังคาร (29 ก.ย.) รัฐบาลบอกว่าจะเพิ่มแอลเบเนีย โคโซโว และมอนเตเนโกร เข้าไปในบัญชีที่เรียกว่ากลุ่มประเทศซึ่งไม่ถือว่ามีภัย ผลก็คือผู้อพยพที่มาจากประเทศเหล่านี้จะถูกเนรเทศในทันที