xs
xsm
sm
md
lg

ชาวญี่ปุ่นผู้สูญเสียนิ้วมือ 9 นิ้ว ‘ถอนตัว’ปีนไปไม่ถึง ‘ยอดเขาเอเวอเรสต์’

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<i><b>โนบูกาซุ คูริกิ นักปีนเขาชาวญี่ปุ่นผู้ซึ่งเสียนิ้วมือไป 9 นิ้ว ในความพยายามที่จะไต่ขึ้นสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์เมื่อปี 2012  ยังคงใช้ความพยายามอีกครั้งในปีนี้  แต่แล้วก็ต้องประกาศยุติถอนตัว ขณะอยู่ในช่วงสุดท้ายก่อนไปถึงยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกแห่งนี้ <i><b>
บีบีซีนิวส์/เอเจนซีส์ – นักไต่เขาชาวญี่ปุ่นซึ่งก่อนหน้านี้ต้องสูญเสียนิ้วมือไปถึง 9 นิ้วเนื่องจากถูกหิมะกัด ประกาศถอนตัวออกจากความพยายามในการปีนไปให้ถึงยอดเขาเอเวอเรสต์เสียแล้ว

“ผมพยายามอย่างหนักและใช้พลังงานทั้งหมดที่ผมมีอยู่ แต่มันต้องใช้เวลามากเกินไปในการเคลื่อนที่ท่ามกลางหิมะที่หนาและลึกเอามากๆ” โนบูกาซุ คูริกิ เขียนเอาไว้เช่นนี้ในเพจเฟซบุ๊กของเขา

“ผมต้องยอมรับว่าถ้าหากผมยังคงเดินหน้าต่อไป ผมจะไม่สามารถกลับลงมาในสภาพที่ยังมีชีวิตอยู่” เขาเขียนต่อ

เขาตัดสินใจเช่นนี้หลังจากที่ได้พยายามทุ่มเทครั้งสุดท้ายเพื่อไปให้ถึงจุดสูงสุดของยอดเขาเอเวอเรสต์ซึ่งอยู่ ณ ระดับความสูง 8,848 เมตร (29,029 ฟุต)

นักไต่เขาวัย 33 ปีผู้นี้เป็นบุคคลคนแรกซึ่งพยายามปีนยอดเขาสูงที่สุดในโลกแห่งนี้ นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวซึ่งสร้างความวิบัติเสียหายหนักในเนปาลเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

นี่เป็นเที่ยวที่ 5 แล้วที่เขาพยายามไต่ไปให้ถึงยอดสูงสุดในช่วงเวลา 6 ปีที่ผ่านมา

คูริกิ เขียนเล่าว่า เขาตัดสินใจยุติความพยายาม ภายหลังที่ออกมาจาก “แคมป์สุดท้าย” ในคืนวันเสาร์ (26ก.ย.)

“ขอบขอบคุณทุกๆ คนเป็นอย่างยิ่งที่ให้ความสนับสนุน” เขากล่าว
<i><b>ยอดเขาเอเวอเรสต์ <i><b>
เขากำลังใช้เส้นทางเดียวกับที่เคยใช้โดย เอดมันด์ ฮิลลารี และ เทนสิง นอร์เกย์ เมื่อตอนที่พวกเขากลายเป็นบุคคลแรกซึ่งไต่ไปจนถึงยอดเขาสูงที่สุดในโลกแห่งนี้ในปี 1953

คูริกิ นั้นชื่มชอบที่จะไต่เขาในช่วงหน้าหนาว, ไต่ขึ้นไปคนเดียว, และใช้เครื่องมืออุปกรณ์ให้น้อยชิ้นที่สุด “นี่คือรูปแบบในการไต่เขาที่บริสุทธิ์ที่สุด และมันคุ้มค่าถึงแม้ต้องเผชิญกับอันตรายเพิ่มมากขึ้น” เขาเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้

เขาเคยพยายามปีนให้ถึงเอเวอเรสต์โดยไปเพียงคนเดียวอยู่ 4 ครั้ง 4 หนในระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา ทว่าแต่ละครั้งก็ถูกบังคับให้ต้องยุติ ขณะที่มองเห็นยอดเขาลูกนี้อยู่ในสายตาแล้ว

ในปี 2012 เขาต้องสูญเสียนิ้วมือไป 9 นิ้วยกเว้นหัวแม่มือนิ้วเดียว ภายหลังติดอยู่ในโพลงหิมะเป็นเวลา 2 วัน ณ ระดับความสูง 8,230 เมตร และอุณหภูมิอยู่ต่ำกว่า -20 องศาเซลเซียส

“จริงๆ แล้วผมก็รู้สึกว้าวุ่นหงุดหงิดและหวาดกลัวนะครับ” เขาบอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ ไม่นานภายหลังมาถึงเนปาลตั้งแต่ช่วงกว่า 1 เดือนก่อนหน้านี้ เพื่อให้ตนเองคุ้นเคยกับภูมิอากาศ

“แต่นี่ก็เป็นเรื่องธรรมดา ก่อนที่จะใช้ความพยายามต่อสู้กับความท้าทายอย่างการปีนเขาเอเวอเรสต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเกิดแผ่นดินไหว และอยู่ในช่วงเวลานี้ของปี”

อุตสาหกรรมปีนเขาที่สร้างรายได้งดงามให้แก่เนเปาล ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 เมษายนซึ่งสังหารผลาญชีวิตผู้คนไปกว่า 9,000 คน แล้วยังเกิดหิมะถล่มอีกเป็นระลอกติดตามมา


กำลังโหลดความคิดเห็น