มาร์เกตวอตช์/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันดีดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 วันเมื่อวันพฤหัสบดี (24 ก.ย.) ได้แรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ปัจจัยนี้ก็ช่วยดันทองคำพุ่งทะยาน ส่วนวอลล์สตรีทขยับลงจากแรงฉุดของหุ้นแคทเทอร์พิลลาร์
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 43 เซ็นต์ ปิดที่ 44.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 42 เซ็นต์ ปิดที่ 48.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักวิเคราะห์มองว่า ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์เช่นเดียวกับการช้อนซื้อตามหลังแรงเขทายระยะสั้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน น้ำมันยังมีปัจจัยหนุนจากความคาดหมายว่าราคาที่ตกต่ำอาจกระตุ้นให้มีการปรับลดกำลังผลิตอย่างมากเร็วๆ นี้
ดอลลาร์ที่่อ่อนค่าลงเป็นผลจากข้อมูลผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานรายสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยและคำสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ลดลง ซึ่งการอ่อนค่าของดอลลาร์ยังส่งผลให้ราคาทองคำเมื่อวันพฤหัสบดี (24 ก.ย.) ขยับขึ้นแรงกว่า 20 ดอลลร์ แตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 22.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,153.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (24 ก.ย.) ปิดลบเล็กน้อย ท่ามกลางความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกและถูกฉุดโดยหุ้นของแคทเทอร์พิลลาร์ ยักษ์ใหญ่ทางอุตสาหกรรม หลังบริษัทแห่งนี้แถลงปรับลดพนักงานนับหมื่นตำแหน่ง
ดาวโจนส์ ลดลง 78.57 จุด (0.48 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16.201.32 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 6.52 จุด (0.34 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,932.24 จุด แนสแดค ลดลง 18.27 จุด (0.38 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,734.48 จุด
หุ้นของแคทเทอร์พิลลาร์ ลดลงร้อยละ 6.3 หลังแถลงมาตรการปรับลดต้นทุนครั้งใหญ่ ตอบสนองต่อภาวะถดถอยของอุตสาหกรรมพลังงานและเหมือง โดยแคทเทอร์พิลลาร์มีแผนลดพนักงานมากกว่า 10,000 ตำแหน่ง และโรงงาน 20 แห่งตลอดจนถึงปี 2018
ในส่วนหุ้นของบริษัทอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่อื่นๆ ก็เคลื่อนไหวอ่อนแอเช่นกัน ในนั้นรวมถึงสมาชิกดาวโจนส์อย่าง เจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) และ ฮันนีเวลล์ อินเตอร์เนชันแนล ซึ่งปิดลบราวๆ ร้อยละ 1