xs
xsm
sm
md
lg

ผู้นำโคลอมเบียดอดเยือนคิวบาแบบไม่แจ้งล่วงหน้า หลังมีข่าวสะพัดการเจรจาสันติกับกบฏ FARC ใกล้ลุล่วง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ประธานาธิบดีฮวน มานูเอล ซานโตสแห่งโคลอมเบีย
เอพี / เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ประธานาธิบดีฮวน มานูเอล ซานโตส ผู้นำวัย 64 ปีแห่งโคลอมเบีย เดินทางถึงคิวบาแบบไม่แจ้งล่วงหน้าในวันพุธ (23 ก.ย.) เพื่อพบกับทีมเจรจาสันติภาพของรัฐบาลของตนที่กำลังพยายามหาทางปิดฉากการเจรจาที่ดำเนินมานานกว่า 2 ปีกับกลุ่มกบฏนิยมซ้าย เพื่อยุติการสู้รบภายในประเทศที่ยืดเยื้อมานานเกินกว่าครึ่งศตวรรษ

ประธานาธิบดีซานโตส ที่ก้าวขึ้นครองอำนาจในฐานะผู้นำคนที่ 32 ในประวัติศาสตร์การเมืองของโคลอมเบียตั้งแต่เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2010 ได้เดินทางถึงกรุงฮาวานาของคิวบาแล้ว โดยไม่มีการแจ้งกำหนดการล่วงหน้า เพื่อพบหารือกับอุมเบร์โต เด ลา กาเญ หัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาของรัฐบาลโคลอมเบีย

การบินด่วนสู่คิวบาของประธานาธิบดีซานโตส มีขึ้นหลังมีกระแสข่าวแพร่สะพัดว่าการเจรจาสันติภาพระหว่างคณะผู้แทนเจรจาของรัฐบาลโคลอมเบีย และผู้แทนของฝ่ายกบฏกองกำลังติดอาวุธเพื่อการปฏิวัติแห่งโคลอมเบีย หรือกลุ่มกบฏ “เอฟเออาร์ซี” มีความคืบหน้าอย่างสำคัญ และคู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่ายใกล้บรรลุข้อตกลงยุติความขัดแย้งครั้งประวัติศาสตร์

ด้านแหล่งข่าวทางการทูตในกรุงฮาวานาเผยว่า ทั้งฝ่ายรัฐบาลโคลอมเบียและฝ่ายกบฏสามารถทำความตกลงในประเด็นขัดแย้งสำคัญๆ ได้หลายข้อ รวมถึงข้อขัดแย้งเรื่องการนิรโทษกรรมให้แก่บรรดาแกนนำฝ่ายกบฏต่อความผิด (ในบางกรณี) ที่เคยก่อไว้ในอดีต

ก่อนหน้านี้การเจรจาสันติภาพที่มีรัฐบาลคิวบาเป็นคนกลาง และมีรัฐบาลนอร์เวย์เป็นผู้ให้การสนับสนุนนี้ ส่อเค้าอาจล่มลงแบบไม่เป็นท่าเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา หลังจากรัฐบาลโคลอมเบียขู่ถอนตัวจากโต๊ะเจรจาสันติภาพ กับกลุ่มกบฏเอฟเออาร์ซี หลังจากที่กลุ่มกบฏฝ่ายซ้ายที่จับอาวุธทำสงครามกองโจรกับรัฐบาลโบโกตามาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1964 กลุ่มนี้ หันมาโหมการโจมตีและก่อเหตุรุนแรงขึ้นทั่วโคลอมเบีย

เมื่อเดือนกรกฎาคม อุมเบร์โต เด ลา กาเญ หัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาของรัฐบาลโคลอมเบียระบุว่า ขณะนี้กระบวนการสันติภาพที่มีรัฐบาลของคิวบาเป็นคนกลาง ได้ก้าวสู่จุดที่ “ย่ำแย่เลวร้ายที่สุด” นับตั้งแต่ที่การเจรจานี้เปิดฉากขึ้นเมื่อปี 2012 และว่ารัฐบาลโคลอมเบียอาจพิจารณาถอนตัวจากโต๊ะเจรจาที่กรุงฮาวานาของคิวบา หากว่าฝ่ายกบฏยังคงโหมการโจมตีและไม่แสดงออกว่า ต้องการยึดมั่นในแนวทางแห่งสันติภาพ

ในช่วงเวลาดังกล่าว กลุ่มกบฏ “Fuerzas Armadas Revolucionarias de Colombia” หรือเอฟเออาร์ซี ได้ก่อเหตุวางระเบิดโจมตีหลายครั้งต่อท่อส่งน้ำมันของรัฐบาลที่ตัดผ่านแนวป่าลึกและแม่น้ำ จนก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อสภาพแวดล้อม อีกทั้งยังเริ่มก่อเหตุโจมตีในเขตเมืองที่มีพลเรือนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากจนเกิดการยิงปะทะกับกองกำลังความมั่นคงของรัฐบาลโคลอมเบียหลายต่อหลายครั้ง

ที่ผ่านมากระบวนการเจรจาสันติภาพที่มีรัฐบาลของคิวบาเป็นตัวกลางถือว่ามีความคืบหน้าไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยรัฐบาลโคลอมเบียและกบฏเอฟเออาร์ซีสามารถตกลงกันได้ แต่เฉพาะประเด็นปลีกย่อย เช่น การร่วมมือปราบปรามการค้ายาเสพติด และการหยุดยิงชั่วคราวเป็นระยะเท่านั้น ส่วนประเด็นหลักอย่างเรื่องการวางอาวุธของกลุ่มกบฏและการนิรโทษกรรมให้แก่สมาชิกฝ่ายกบฏ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนเชลยนั้นมีความคืบหน้าน้อยมาก นับตั้งแต่ที่การเจรจาสันติภาพนี้เริ่มต้นในปี 2012

ทั้งนี้ กลุ่มกบฏเอฟเออาร์ซีถือเป็นกลุ่มกบฏนิยมซ้าย ที่เก่าแก่ที่สุดของภูมิภาคละตินอเมริกา ขณะที่ความขัดแย้งและการสู้รบระหว่างกลุ่มกบฏนี้กับรัฐบาลโบโกตาตั้งแต่ปี 1964 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 200,000 รายทั่วโคลอมเบีย