เอเอฟพี – ปมคดีทุจริตซึ่งพัวพันถึงนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก แห่งมาเลเซีย ยังคงทวีซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดทางการสหรัฐฯ ได้สั่งตรวจสอบทรัพย์สินของบุคคลใกล้ชิดผู้นำแดนเสือเหลือง ขณะที่นักวิเคราะห์เตือนว่า ข่าวฉาวเหล่านี้อาจส่งผลให้ นาจิบ สูญเสียการยอมรับจากนานาชาติ ต่อให้เขารอดคดีอาญาไปได้ก็ตาม
นาจิบ ใช้อิทธิพลของรัฐบาลกลุ่มบาริซาน เนชันแนล (บีเอ็น) ที่ครองอำนาจมานานถึง 58 ปียับยั้งกระบวนการสอบสวนในมาเลเซีย หลังถูกเปิดโปงเรื่องเงินทุนหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐที่ถูกเคลื่อนย้ายเข้าไปอยู่ในบัญชีส่วนตัวของนายกฯ อย่างเป็นปริศนา
สื่อดังของสหรัฐฯ อย่างวอลล์สตรีทเจอร์เนิลและนิวยอร์กไทม์ส รายงานว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ และสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) กำลังตรวจสอบเส้นทางเงินทุนดังกล่าว เช่นเดียวกับทางการสวิตเซอร์แลนด์ อังกฤษ สิงคโปร์ และฮ่องกง ที่ได้ดำเนินการสอบสวนคดีฟอกเงินที่อาจเกี่ยวข้องกับกองทุนเพื่อการพัฒนา “วัน มาเลเซีย ดีเวลลอปเมนต์ เบอร์ฮัด” (1MDB) ที่รัฐบาล นาจิบ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2009
“ขณะนี้กำลังมีการตรวจสอบในหลายประเทศที่เงินทุนถูกนำไปพักไว้ ถ้านายกฯ นาจิบ ยังนอนหลับสบายดีอยู่ หลังจากนี้คงมีอาการนอนไม่หลับบ้าง” ซินเธีย แกเบรียล ผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการทุจริตและการเอื้อประโยชน์พวกพ้อง (Centre to Combat Corruption and Cronyism) ในมาเลเซีย กล่าว
พฤติกรรมคอรัปชันของคนในรัฐบาลเป็นสิ่งที่ชาวมาเลเซียรับรู้และคุ้นเคยดีอยู่แล้ว แต่ข่าวฉาวล่าสุดเกี่ยวกับกองทุน 1MDB เป็นเรื่องใหญ่ที่หลายคนแทบจะไม่เชื่อ
ย้อนหลังไปเมื่อปีที่แล้ว มีกระแสข่าวว่าเงินทุนกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ได้อันตรธานหายไประหว่างการทำธุรกรรมการเงินข้ามประเทศโดยบริษัทที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลนาจิบ ต่อมาในเดือนกรกฎาคมปีนี้ ก็มีการเปิดโปงเรื่องเงินสดเกือบ 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ถูกโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี
เมื่อวานนี้ (21 ก.ย.) หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สได้อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดกระบวนการสอบสวน 2 คน ซึ่งระบุว่า คณะลูกขุนใหญ่สหรัฐฯ กำลังตรวจสอบทรัพย์สินมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ซึ่งถูกซื้อในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาโดยบริษัทเปลือกนอก (shell company) ของ ริซา อาซีซ บุตรชายบุญธรรมนาจิบ รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของบุคคลใกล้ชิดครอบครัวผู้นำมาเลเซีย
ผู้เชี่ยวชาญมองว่า โอกาสที่ นาจิบ ราซัก จะถูกตั้งข้อหาทุจริตในต่างประเทศยังเป็นเรื่องห่างไกล เนื่องจากขั้นตอนการสอบสวนมีความสลับซับซ้อน และต้องอาศัยความร่วมมือจากรัฐบาลมาเลเซีย ซึ่งคงไม่ยอมเอออวยด้วยง่ายๆ
อย่างไรก็ตาม ข้อครหาและการถูกสอบสวนคดีทุจริตก็สร้างความเสื่อมเสียไม่น้อยต่อ นาจิบ ซึ่งพยายามชูภาพลักษณ์ผู้นำมุสลิมสายกลางที่ชื่นชอบความเป็นอังกฤษ และมีรสนิยมแบบยุโรป
จอห์น มาล็อตต์ อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ ให้สัมภาษณ์ว่า “ที่ผ่านมารัฐบาลทั่วโลกอ้าแขนต้อนรับเขา แต่หลังจากนี้เขาอาจถูกเมินหน้าหนี ซึ่งคงเป็นเรื่องที่ยากจะทำใจรับได้”
ทั้ง นาจิบ และกองทุน 1MDB ซึ่งเขาดำรงตำแหน่งประธานที่ปรึกษา ยืนยันว่าไม่มีเงินของกองทุนถูกยักย้ายถ่ายเทไปยังบัญชีส่วนตัวของนายกฯ แน่นอน
นาจิบ อ้างว่าเรื่องทั้งหมดเป็นแผนของศัตรูทางการเมืองที่ต้องการโค่นอำนาจเขา โดยเฉพาะอดีตนายกฯ มหาธีร์ โมฮาหมัด ซึ่งเริ่มบาดหมางกับ นาจิบ นับตั้งแต่พรรครัฐบาลได้คะแนนเสียงตกต่ำลงในศึกเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
รัฐบาลมาเลเซียอ้างว่าเงินสดหลายร้อยล้านดอลลาร์ที่ถูกฝากเข้าบัญชี นาจิบ เป็น “เงินบริจาคสนับสนุนพรรคการเมือง” จากแหล่งทุนในตะวันออกกลาง ซึ่ง มหาธีร์ ก็ออกมาแย้งว่า “ฟังไม่ขึ้น”
นักวิจารณ์มองว่า เรื่องกองทุน 1MDB กลายเป็นระเบิดลูกใหญ่ที่สะท้อนพฤติกรรมทุจริตของคนในพรรคอัมโนให้เป็นที่ประจักษ์ รวมไปการใช้อำนาจโดยมิชอบ และวัฒนธรรมการละเว้นโทษ ที่ฝ่ายค้านชี้ว่าเลวร้ายลงเรื่อยๆ ในยุคของ นาจิบ
นาจิบ ซึ่งก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2009 ยังถูกกล่าวหาว่าพัวพันคดีทุจริตจัดซื้อเรือดำน้ำจากฝรั่งเศส ขณะที่เขายังเป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม และเรื่องนี้ยังพัวพันไปถึงการสังหารโหด “อัลตันตุยา ซารีบู” หญิงชาวมองโกเลีย ซึ่งว่ากันว่าเธอถูกฆ่าปิดปากเพราะไปรับรู้เรื่องการจ่ายสินบน
เอกอัครราชทูต มาล็อตต์ ชี้ว่า คดีกองทุน 1MDB อาจกระทบกระเทือนถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่าง นาจิบ กับประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ซึ่งยกมาเลเซียให้เป็นพันธมิตรสำคัญด้านกิจการในภูมิภาคนี้ รวมถึงเรื่องความมั่นคงในทะเลจีนใต้
โอบามา เคยเชิญผู้นำเสือเหลืองไปออกรอบตีกอล์ฟด้วยกันที่รัฐฮาวายเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว แต่ มาล็อตต์ ระบุว่า ในการประชุมอาเซียนซัมมิตที่มาเลเซียเดือนพฤศจิกายนนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คงจะมีท่าที “ห่างเหิน” กว่าที่เคย
หลังจากที่สั่งปลดรองนายกรัฐมนตรี มูห์ยิดดิน ยัสซิน ที่เรียกร้องให้เขาออกมาอธิบายเรื่องกองทุนฉาว และ อับดุล กอนี ปาเตล อัยการสูงสุดซึ่งเป็นหนึ่งในทีมสอบสวนคดี 1MDB ล่าสุดดูเหมือนว่า นาจิบ จะยังไม่หยุดเดินหน้ากำจัดผู้ที่กล้าวิจารณ์รัฐบาล
เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (18) คอยรุดดิน อบูฮัสซัน อดีตสมาชิกพรรคอัมโน ถูกตำรวจมาเลเซียจับกุมด้วยข้อหาบ่อนทำลายรัฐบาล หลังจากที่เขาได้เดินทางไปพบปะเจ้าหน้าที่หลายประเทศเพื่อผลักดันให้มีการตรวจสอบเงินกองทุน 1MDB
โทนี ปัว ส.ส.ฝ่ายค้านมาเลเซีย ซึ่งเป็นคนหนึ่งที่ออกมาเปิดโปงความไม่ชอบมาพากลในกองทุน 1MDB ระบุว่า กองทุนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งนี้มีหนี้สินเกือบ 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และใช้วิธีเคลื่อนย้ายเงินทุนในต่างประเทศอย่างคลุมเครือเพื่อปกปิดเส้นทางเงิน และสถานะที่แท้จริงขององค์กรซึ่งใกล้จะล้มละลายเต็มทน
อย่างไรก็ตาม ปัว ชี้ว่า การยักย้ายเงินทุนไม่อาจกระทำได้อย่างเสรีอีกต่อไป เมื่อทางการสวิตเซอร์แลนด์และฮ่องกงได้สั่งอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับ 1MDB และเริ่มดำเนินการสอบสวนว่ามีการฟอกเงินหรือธุรกรรมผิดกฎหมายอื่นๆ หรือไม่