รอยเตอร์ - รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯและรัสเซียพูดคุยกันเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปีเมื่อวันศุกร์ (18 ก.ย.) โดยต่อสายตรงหารือกันเกี่ยวกับวิกฤตในซีเรีย ท่ามกลางความเคลื่อนไหวเสริมกำลังทหารของมอสโกในดินแดนดังกล่าว เพิ่มโอกาสแห่งการร่วมมือกันระหว่างอดีตสองคู่อริสงครามเย็น
เพนตากอนเผยว่าการพูดคุยทางโทรศัพท์ใช้เวลาราว 50 นาที และระหว่างนั้นทั้งสองฝ่ายยังตกลงเปิดหารือระหว่างสหรัฐฯกับรัสเซียเพิ่มเติม เกี่ยวกับแนวทางที่กันกองทัพของพวกเขาออกจากเส้นทางของแต่ละฝ่าย หรือศัพท์ทางทหารเรียกว่า “ลดความขัดแย้ง”
สหรัฐฯ คัดค้านอย่างดุเดือดต่อกรณีที่รัสเซียให้การสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรีย ขณะที่เมื่อปีที่แล้วเพนตากอนได้ล้มเลิกการเจรจาทางทหารระดับสูงกับมอสโก หลังจากรัสเซียผนวกไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนและเข้าแทรกแซงในยูเครน
อย่างไรก็ตาม การเสริมกำลังรัสเซียที่ฐานทัพอากาศลาตาเคียของซีเรีย เพิ่มความเป็นไปได้สำหรับการที่วอชิงตันกับมอสโกจะดำเนินภารกิจสู้รบในน่านฟ้าซีเรียพร้อมๆ กัน
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เผยว่า เมื่อไม่นานที่ผ่านมายุทโธปกรณ์หนักของรัสเซีย อย่างเช่นรถถังและเฮลิคอปเตอร์ เช่นเดียวกับกองกำลังทหารราบกองทัพเรือ ได้เคลื่อนเข้าสู่ลาตาเคีย เมืองป้อมปราการของนายอัสซาด
แอชตัน คาร์เตอร์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ บอกกับนายเซียร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย ว่าการหารือในอนาคตจะดำเนินการคู่ขนานกับการเจรจาทางการทูต ซึ่งจะรับประกันการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองในซีเรีย
“เขาย้ำว่าการกำราบนักรบรัฐอิสลาม และรับประกันการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองคือสองวัตถุประสงค์ที่จำเป็นต้องแสวงหาในเวลาเดียวกัน” เพนตากอนระบุและเผยว่าหนสุดท้ายที่รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ พูดคุยกับนายชอยกู ต้องย้อนกลับไปในเดือนสิงหาคม 2014
ทั้งมอสโกและวอชิงตันมีศัตรูร่วมกันคือพวกรัฐอิสลาม (ไอเอส) ซึ่งบุกยึดพื้นที่กว้างขวางในซีเรีย อย่างไรก็ตาม วอชิงตันเชื่อว่าการยังอยู่ในอำนาจของนายอัสซาดกำลังเป็นตัวกระพือให้วิกฤตซีเรียเลวร้าย ทว่า ฝ่ายรัสเซียยังคงให้การสนับสนุนพันธมิตรเก่าแก่รายนี้
ในลอนดอน นายจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯบอกว่าอเมริกากำลังมองหาความเห็นร่วมกันกับรัสเซีย โดยเขาระบุว่ามีความจำเป็นที่ต้องหล่อหลอมข้อตกลงทางการเมืองในซีเรียและยุติความทุกข์ยากของประชาชนชาวซีเรีย