เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - เหล่าพนักงานสนามบินในชิลี ก่อการผละงานประท้วงต่อเนื่องเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ตั้งแต่เมื่อวันอังคาร (15 ก.ย.) ส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินจำนวนมาก และทำให้มีผู้โดยสารตกค้างกว่า 70,000 ราย
การนัดผละงานประท้วงดังกล่าวถูกจัดขึ้นก่อนถึงช่วงวันแห่งเอกราชของชิลีซึ่งตรงกับวันที่ 18 กันยายน ที่ถือเป็นช่วงวันหยุดที่จะมีผู้ใช้บริการสนามบินอย่างคับคั่ง
โดยรายงานข่าวระบุว่า นอกเหนือจากพนักงานระดับล่างที่ทำงานในท่าอากาศยานทั่วชิลีจะก่อการผละงานประท้วงแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้านการบินพลเรือนที่รวมถึงเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศเข้าร่วมผละงานด้วย รวมแล้วเกือบ 4,000 ราย
สาเหตุหลักของการนัดผละงานประท้วงครั้งใหญ่คราวนี้ คือ การที่เหล่าพนักงานสนามบิน และเจ้าหน้าที่ด้านการบินต้องการเรียกร้องให้มีการปรับปรุงสภาพการทำงาน และสวัสดิการในยามเกษียณให้ดีขึ้น
การผละงานประท้วงดังกล่าวส่งผลให้มีผู้โดยสารตกค้างที่สนามบินนานาชาติในกรุงซานติอาโก และตามสนามบินแห่งต่างๆ ของชิลีรวมแล้วกว่า 70,000 รายทั้งผู้โดยสารที่เป็นชาวชิลีและชาวต่างชาติ
ด้านมักซิมิลิอาโน ลาร์ราเอเชีย ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนของชิลี ออกมายอมรับว่าการนัดผละงานประท้วงที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบ “100 เปอร์เซ็นต์” ต่อการให้บริการของสนามบินทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะมีการให้บริการตามปกติสำหรับการลงจอดของเที่ยวบินที่มีเหตุฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่เที่ยวบินปกติทั่วไปต้องถูกยกเลิก หรือเลื่อนออกไปแบบไม่มีกำหนดจนกว่า เจ้าหน้าที่ด้านการควบคุมการจราจรทางอากาศจะกลับเข้าปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม
ล่าสุด เฟลิเป เซสเปเดส รัฐมนตรีเศรษฐกิจของชิลีออกมาระบุว่า การนัดผละงานประท้วงครั้งนี้เป็นสิ่งที่ขัดต่อกฎหมายและสร้างผลกระทบใหญ่หลวงต่อเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมเรียกร้องให้เหล่าพนักงานเข้าสู่กระบวนการเจรจากับทางการเพื่อแก้ไขข้อพิพาท แทนการใช้วิธีผละงาน
