เอเอฟพี - สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P)เมื่อวันพุธ (16 ก.ย.) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่นลง 1 ขั้น สู่ A+ ระบุรัฐบาลมีโอกาสน้อยที่จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจหรือกระตุ้นเงินเฟ้อในช่วงหลายปีข้างหน้า
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) มีมติไม่ขยายมาตรการผ่อนคลายทางการเงินขนานใหญ่ที่ดำเนินการไปก่อนหน้านี้ แม้เหล่านักเศรษฐศาสตร์เตือนว่าเศรษฐกิจที่เซื่องซึมของประเทศอาจจำเป็นต้องได้รับการกระตุ้นเพิ่มเติม
โครงการซื้อสินทรัพย์เป็น 80 ล้านล้านเยนต่อปีของธนาคารกลางญี่ปุ่น คือเสาหลักของความมุ่งมั่นทางนโยบายที่ดำเนินการโดยนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของญี่ปุ่นและเอาชนะภาวะเงินฝืด
อย่างไรก็ตาม นานกว่า 2 ปีแล้วที่นายกรัฐมนตรีรายนี้ประสบปัญหาทำตามคำสัญญาที่จะปฏิรูปเชิงโครงสร้างเพื่อลดกฎระเบียบและเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ใกล้ๆร้อยละศูนย์และการเติบโตหดตัวในช่วงไตรมาส 2
“เราเชื่อว่ายุทธศาสตร์ฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาลที่เรียกกันว่าอาเบะโนมิกส์ จะไม่สามารถพลิกฟื้นความเสื่อมถอยนี้ได้ในช่วง 2 หรือ 3 ปีข้างหน้า” S&P ระบุ “ตัวสนับสนุนทางเศรษฐกิจสำหรับความน่าเชื่อถือทางเครดิตของญี่ปุ่นจะยังคงอ่อนแอต่อไปอีก 3 ถึง 4 ปี” พร้อมบอกต่อว่า “การตัดสินใจที่ล่าช้าในหมู่สถาบันทางนโยบายต่างๆ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้การนำนโยบายไปปฏิบัติลดประสิทธิภาพลง”
ญี่ปุ่นคือชาติพัฒนาแล้วที่มีหนี้มากที่สุดในโลก โดยมีหนี้สินมากกว่าขนาดของผลผลิตทางเศรษฐกิจของประเทศกว่า 2 เท่า และ S&P ประมาณการณ์ว่ามันอาจแตะระดับ 135 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีในปีงบประมาณ 2018 จากระดับ 128 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีในปีนี้
การที่ S&P ปรับลดอันดับของญี่ปุ่นจาก AA- สู่ A+ ส่งผลให้พวกเขามีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าคู่แข่งในภูมิภาคอย่าง จีนและเกาหลีใต้
S&P เป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือลำดับสุดท้ายจาก 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ ที่ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่น นับตั้งแต่อาเบะก้าวสู่อำนาจ หลัง ฟิตช์ และ มูดีส์ ได้ปรับลดไปก่อนหน้าแล้วในเดือนเมษายนและธันวาคมปีก่อนตามลำดับ โดยทั้งสองอ้างถึงความกังวลต่อตัวเลขหนี้ที่สูงลิ่วและเศรษฐกิจซบเซา
สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือแห่งนี้บอกว่าในขณะที่ญี่ปุ่นยังเป็นประเทศที่มีรายได้สูงประกอบกับมีระบบการเงินที่มั่นคง แต่ภาวะประชากรสูงอายุและเงินฝืดที่ยืดเยื้อกำลังซ้ำเติมฐานะทางการเงินของประเทศที่อ่อนแออย่างมากอยู่ก่อนแล้ว