เอเอฟพี - ตำรวจเนปาลยิงปืนเข้าใส่ฝูงชนที่มาประท้วงรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เมื่อวันอังคาร (15 ก.ย.) ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย หนึ่งในนั้นเป็นเด็กชายวัย 4 ขวบ
ตำรวจระบุว่า พวกเขาได้ยิงปืนหลังจากที่ผู้ประท้วงขว้างปาระเบิดขวดและก้อนหินเข้าใส่กองกำลังความมั่นคง โจมตีรถตำรวจ ทุบทำลาย สร้างความเสียหายให้กับสถานีตำรวจท้องถิ่น ในเขตรูปันเดฮี ทางตอนใต้ของประเทศ
"มีผู้เสียชีวิต 4 รายตอนที่ตำรวจถูกบีบบังคับให้ต้องยิงเข้าใส่ฝูงชนที่ถือเป็นภัยคุกคาม โชคร้ายที่ในกลุ่มผู้เสียชีวิตมีเด็กชายวัย 4 ขวบด้วย" ตำรวจท้องถิ่นบอกเอเอฟพีทางโทรศัพท์
มีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 40 ราย จากการปะทะกันระหว่างตำรวจและผู้ประท้วงในที่ราบทางใต้ของเนปาล ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากบรรดาพรรคการเมืองได้บรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญใหม่ ภายใต้แรงกดดันให้ทำงานร่วมกันหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวในเดือนเมษายน
ในจำนวนผู้เสียชีวิตเหล่านั้น มีตำรวจ 11 ราย กับทารกเพศชายวัย 18 เดือนผู้เป็นลูกของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เด็กน้อยรายนี้เสียชีวิตเพราะถูกผู้ประท้วงยิงบริเวณนอกบ้านของเขา
บรรดา ส.ส.เนปาล ได้เริ่มโหวตกฏหมายฉบับนี้ไปเมื่อวันอาทิตย์ โดยมีกำหนดยื่นต่อประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 กันยายน แต่รัฐธรรมนูญฉบัยนี้ที่มีแผนแบ่งการปกครองออกเป็น 7 แคว้น ต้องเจอกับการต่อต้านอย่างหนักจากชนกลุ่มน้อยบางกลุ่มที่บอกว่าการแบ่งเขตใหม่จะทำให้พวกเขาไม่มีบทบาทในรัฐสภาแห่งชาติ
เนปาลได้เริ่มดำเนินการเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญใหม่นี้ตั้งแต่ปี 2008 สองปีหลังการสิ้นสุดของเหตุก่อความไม่สงบโดยกบฏลัทธิเหมาที่ยาวนานนับทศวรรษและทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 16,000 ราย ทั้งยังโค่นล้มระบอบกษัตริย์ฮินดูที่อยู่มานาน 240 ปี