รอยเตอร์ - มีบ้านเรือนอย่างน้อย 400 หลังและอาคารอีกหลายร้อยแห่งถูกเปลวเพลิงเผาพลาญ และพบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คนท่ามกลางไฟป่าในนอร์ทแคลิฟอร์เนียซึ่งก่อความเสียหายแก่พื้นที่ภาคตะวันตกของสหรัฐฯ วอดวายที่สุดในช่วงฤดูร้อนปีนี้ เจ้าหน้าที่เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (14 ก.ย.)
ไฟป่าที่เรียกกันว่าไฟป่าวัลเลย์ ซึ่งปะทุซึ่งเมื่อบ่ายวันเสาร์ (12 ก.ย.) และแผ่ลามอย่างรวดเร็วสู่กลุ่มก้อนชุมชนขนาดเล็กๆ แถบภูเขาและหุบเขาทางเหนือของภูมิภาคผลิตไวน์ของนาปา เคาน์ตี ยังทำให้ชาวบ้านอีกหลายพันคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย หลังต้องขยายโซนอพยพเพิ่มเติ่ม
จนถึงตอนเช้าวันจันทร์ (14 ก.ย.) เพลิงป่าครอบคลุมพื้นที่ราว 152,500 ไร่ของป่าแห้ง พุ่มไม้เตี้ยๆและทุ่งหญ้าติดไฟง่าย ซึ่งเจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แค่ร้อยละ 5 เท่านั้น จากการเปิดเผยของกรมป้องกันไฟและป่าไม้รัฐแคลิฟอร์เนีย
พื้นที่ราว 100,000 ไร่ถูกเปลวไฟเผาผลาญในช่วง 12 ชั่วโมงแรก เมื่อตอนค่ำวันเสาร์ (12 ก.ย.) จนถึงเช้าวันอาทิตย์ (13 ก.ย.) อันเป็นช่วงเวลาที่ไฟป่าโหมกระพือหนักหน่วงที่สุด อันเนื่องมาจากลมกระโชกแรง โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงบรรยายสถานการณ์ในตอนนั้นว่าไฟแผ่ลามอย่างรวดเร็วอย่างคาดไม่ถึง ผลจากผืนป่าที่แห้งแล้งมานากว่า 4 ปี และในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา สภาพอากาศก็ร้อนจัดอย่างแสนสาหัส
มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 4 คนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล จากอาการบาดเจ็บแผลไฟไหม้ระดับสองในช่วงชั่วโมงแรกๆ ของเหตุไฟป่าเมื่อวันเสาร์ (12 ก.ย.) ต่อมาโฆษกสำนักงานนายอำเภอเลค เคาน์นี ยืนยันในวันจันทร์ (14 ก.ย.) มีหน่วยดับเพลิงเสียชีวิต 1 คน อย่างไรก็ตาม ไม่มีการยืนยันถึงกรณีแวดล้อมหรือเปิดเผยชื่อของเหยื่อ
ไมค์ สมิธ หัวหน้าหน่วยดับเพลิงแคลิฟอร์เนียบอกว่าไฟป่ายังคงโหมกระพือ แม้ความรุงแรงจะลดลงจากปรากฏการณ์ทางสภาพอากาศที่เรียกว่าชั้นบรรยากาศผกผันที่ครอบคลุมพื้นที่ดังกล่าว อย่างไรก็ตามความพยายามต่อสู้กับเปลิวเพลิงยังต้องเผชิญอุปสรรคกลุ่มควันหนาทึบ จนไม่สามารถใช้เฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินดับเพลิงทิ้งน้ำได้ แม้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมากกว่า 1,400 นาย
จากสถานการณ์เกิดไฟไหม้ป่ารุนแรงในพื้นที่หลายแห่งทางตอนเหนือ ทำให้นาย เจอร์รีย์ บราวน์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ออกมาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในรัฐ โดยมีรายงานว่าชุมชนต่างๆไม่ว่าจะเป็นคอบบ์, มิดเดิลทาวน์, ฮิดเดน วัลเลย์ เลคและฮาร์บิน ฮอต สปริงส์ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากซาคราเมนโต เมืองเอกของรัฐ ไปทางตะวันตกแค่ 80 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด ด้วยพลเมืองหลายคนต้องเร่งอพยพออกจากบ้านเรือนในแบบที่ได้รับคำเตือนล่วงหน้าไม่นานนักและบางส่วนก็ถึงขั้นไม่ได้รับคำเตือนเลยก็มี
หน่วยดับเพลิงแคลิฟอร์เนียรายงานในวันจันทร์ (14 ก.ย.) มีบ้านเรือนอย่างน้อย 400 หลังและสิ่งปลูกสร้างอีกหลายร้อยแห่งถูกเปลวเพลิงเผาผลาญย่อยยับ ซึ่งส่วนใหญ่เชื่อว่าน่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่วันเสาร์ (12 ก.ย.)
ส่วนไฟป่าอีกจุดที่บริเวณเทือกเขาเซียร์รา ที่โหมกระพือตั้งแต่วันพุธที่แล้ว (9 ก.ย.) ได้ทำลายบ้านเรือนไปแล้ว 135 หลัง อาคารต่างๆ 79 แห่ง และส่อแววคุกคามสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ อีกราว 6,400 แห่ง ขณะที่ทางการต้องสั่งอพยพชาวบ้านหลายพันคนเช่นกัน