เอเอฟพี/รอยเตอร์ - เกิดเหตุเครนก่อสร้างล้มลงทับแกรนด์มัสยิดของนครเมกกะ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมในซาอุดีอาระเบียวันศุกร์ (11 ก.ย.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 87 รายและบาดเจ็บกว่าร้อยคน เบื้องต้นยังไม่มีการยืนยันของต้นตอ ทว่าในช่วงเวลาที่เกิดเหตุมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรง
เบื้องต้นหน่วยงานป้องกันภัยพลเรือนของซาอุดีอาระเบียเปิดเผยบนทวิตเตอร์ว่านอกจากยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 65 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุคราวนี้อีกถึง 154 คน อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาทางหัวหน้าหน่วยงานดังกล่าว ออกมาแก้ไขตัวเลข โดยระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 87 ราย และบาดเจ็บ 183 คน
ส่วนสถานีโทรทัศน์อัล อาราบียา รายงานก่อนหน้านี้ว่าเครมล้มลงเพราะพายุลมแรงและช่วงเวลาดังกล่าวก็มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ขณะที่ทางตะวันตกของซาอุดีอาระเบียเพิ่งเผชิญกับพายุทรายรุนแรงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
ภาพที่ถูกเผยแพรบนสื่อสังคมออนไลน์พบเห็นศพที่เต็มไปด้วยเลือดกระจัดกระจายอยู่ทั่วลานมัสยิด นักแสวงบุญบางส่วนเสื้อผ้าเปื้อนไปด้วยคราบเลือด และชิ้นส่วนเครนดูเหมือนจะทะลุเพดานลงมา
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนหน้าที่มุสลิมหลายล้านคนจากทั่วโลกจะมารวมตัวกันประกอบพิธีฮัจญ์ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้ ขณะเดียวกันก็เป็นปกติที่ในวันศุกร์ แกรนด์มิสยิดจะคราคร่ำไปด้วยผู้คน เนื่องจากเป็นวันสวดมนต์ประจำสัปดาห์ของชาวมุสลิม
แกรนด์มัสยิดเป็นที่ตั้งของกะอ์บะฮ์ อาคารทรงลูกบาศก์ ก่อสร้างด้วยก้อนหินที่ตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งชาวมุสลิมทั่วโลกจะสวดมนต์ภาวนาที่หันไปทางสิ่งศักดิ์สิทธิ์โบราณแห่งนี้
ซาอุดีอาระเบียกำลังดำเนินโครงการขนาดยักษ์ขยายเนื้อที่ของมัสยิดอีก 400,000 ตารางเมตร เพื่อให้สามรถรองรับนักแสวงบุญได้สูงสุด 2.2 ล้านคน และด้วยเหตุนี้มัสยิดจึงรายล้อมไปด้วยเครนจำนวนมาก
พิธีฮัจญ์ หนึ่งในการรวมตัวทางศาสนามากที่สุดในโลก เคยประสบโศกนาฏกรรมหลายครั้งในอดีต ส่วนใหญ่เกิดจากเหตุเหยียบกันตาย เนื่องจากเหล่านักแสวงบุญพากันเร่งรีบประกอบพิธีกรรมให้เสร็จและจะได้กลับบ้าน โดยเฉพาะในปี 2006 ที่มีผู้เสียชีวิตจากการเหยียบกันตายหลายร้อยคน
นับตั้งแต่นั้นเจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบียได้ทุ่มเงินมหาศาลขยายพื้นที่ต่างๆที่ใช้ประกอบพิธีฮัจญ์และปรับปรุงระบบขนส่งของนครเมกกะ ในความพยายามป้องกันไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมซ้ำรอยอีก
