เอเอฟพี – การประท้วงประกาศจุดยืนของนักศึกษาบังกลาเทศเกิดขึ้นเป็นวันที่ 2 ของการประท้วงในวันนี้(10)ต่อนโยบายการศึกษาของรัฐบาลบังกลาเทศต่อการจัดเก็บ “ภาษีมหาวิทยาลัยในอัตรา 7.5% ” กับนักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนทั้งหมด แต่กลับยกเว้นให้กับนักศึกษาที่เรียนในมหาวิทยาลัยสังกัดภาครัฐ ซึ่งบรรดาผู้ประท้วงต่างกล่าวว่า ถือเป็นการกีดกันคนธรรมดาในการเข้ารับการศึกษาระดับอุดมศึกษา
เอเอฟพีรายงานวันนี้(10)ว่า บรรดานักศึกษาที่ทำการประท้วง “ภาษีมหาวิทยาลัย” ได้ตั้งสิ่งกีดขวางบนถนนเส้นสำคัญในกรุงธากา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประท้วง และทำให้การคมนาคมในเมืองหลวงในประเทศที่มีประชากรอาศัยอยู่ร่วม 15 ล้านคนต้องถูกปิด
และมีรายงานว่า ความตรึงเครียดได้เพิ่มสูงขึ้นเมื่อตำรวจปราบจลาจลได้เริ่มต้นยิงกระสุนยางและแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มนักศึกษาหลายพันคนเหล่านั้นในวันพุธ(9)หลังจากที่พวกเขาทำการปิดกั้นการจราจรถนนเส้นสำคัญ และพบว่านักศึกษาเหล่านี้มาจากมหาวิทยาลัยอีสต์เวสต์(East West)
เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า มีคนได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 35 คนในการปะทะระหว่างฝูงนักศึกษาบังกลาเทศและตำรวจปราบจลาจลที่ทำหน้าที่ควบคุมฝูงชน The Daily Star หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษในบังกลาเทศรายงาน
“พวกเรากำลังประท้วงอย่างสงบในขณะที่ตำรวจปราบจลาจลได้เริ่มยิงกระสุนยางเข้ามา” มาชฟิค อาห์ซาน (Mashfiq Ahsan) ผู้จัดการประท้วงให้สัมภาษณ์เอเอฟพี
เอเอฟพีรายงานต่อว่า บรรดานักศึกษาต่างโกรธแค้นที่พบว่า รัฐบาลบังกลาเทศได้เริ่มจัดเก็บภาษี 7.5% ของค่าเล่าเรียนสำหรับมหาวิทยาลัยเอกชนในบังกลาเทศที่มีนักศึกษาจำนวนมากศึกษาต่อ แต่ทว่ามหาวิทยาลัยของภาครัฐกลับได้รับการยกเว้นไม่ต้องถูกเรียกเก็บภาษีประเภทนี้
ด้านตำรวจบังกลาเทศให้ข้อมูลตัวเลขของผู้ร่วมชุมนุมในวันพฤหัสบดี(10)ว่า มีนักศึกษาเข้าร่วมเพียงแค่หลักพันต้นๆเท่านั้น แต่ทว่าผู้จัดการประท้วงแย้งว่า จำนวนผู้เข้าร่วมหลายหมื่นคน และล้วนแต่เป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเอกชนทั้งสิ้น
เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า อับดุลเลาะฮ์ อัล คาฟี ( Abdullah-al Kafi) เจ้าหน้าที่รัฐได้ให้ความเห็นถึงการประท้วงครั้งนี้ว่า คาฟีสนับสนุนจุดยืนเหล่านักศึกษาถึงแม้ว่า เขาต้องเดินไปทำงานในระยะทางเกือบ 7 กม. ก็ตาม “ผมทำงานอย่างหนักเพื่อส่งลูกสาว 2 คนไปยังมหาวิทยาลัยเอกชน และดังนั้นผมไม่รู้สึกเดือดร้อนในการที่ต้องเดินไปทำงานแทนเพื่อแสดงจุดยืนเดียวกับเด็กเหล่านั้น” คาฟีกล่าว