เอเอฟพี - สายการบินเยอรมนี “ลุฟท์ฮันซ่า” เปิดเผยในวันพุธ (9 ก.ย.) ว่ามีผู้โดยสารมากถึง 140,000 รายที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิก 1,000 เที่ยวบิน เพราะการหยุดงานประท้วงของเหล่านักบินที่ขยายเวลาเข้าสู่วันที่ 2
การสไตรค์ของสหภาพแรงงานนักบิน เวรินิกุง ค็อกพิต เดิมทีนั้นจะมีผลกระทบแค่เที่ยวบินระยะไกลในวันอังคาร แต่ในเวลาต่อมาทางสหภาพได้ตัดสินใจที่จะขยายการสไตรก์ไปยังเที่ยวบินระยะสั้นและระยะกลางในวันพุธด้วย ทำให้ฝ่ายบริหารสายการบินไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ ฝ่ายบริหารกับสหภาพแรงงานนั้นขัดแย้งกันมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2014 เกี่ยวกับแผนการเปลี่ยนแปลงเรื่องการเกษียณก่อนกำหนด
สภาอุตสาหกรรมบีดีไอได้เตือนว่า การหยุดงานประท้วงครั้งแล้วครั้งเล่า อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง ส่วนสมาชิกสภานิติบัญญัติที่เป็นพวกอนุรักษนิยม “มิเชล ฟุช” ได้บอกว่า ความขัดแย้งระหว่างทั้งสองฝ่ายอาจเป็นอันตรายอย่างร้ายแรงต่อความสามารถในการแข่งขันของสายการบินลุฟท์ฮันซ่า พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายหาคนนอกมาชี้ขาด
ลุฟท์ฮันซ่าเปิดเผยว่า จากตัวเลขรวม 1,520 เที่ยวบินที่ควรจะออกเดินทางในวันพุธ มีเพียงแค่ประมาณ 500 เที่ยวบินเท่านั้นที่ขึ้นบินได้ตามกำหนด
การสไตรก์ครั้งนี้เกิดขึ้นกับเที่ยวบินของลุฟท์ฮันซ่าเท่านั้น ส่วนสายการบินอื่นที่เป็นบริษัทย่อยของลุฟท์ฮันซ่า เช่น เยอรมันวิงส์, สวิส แอร์ไลน์ส, ออสเตรียน แอร์ไลน์ส, บรัสเซลส์ แอร์ไลน์ส ล้วนให้บริการตามปกติ
ผู้โดยสารของเที่ยวบินในประเทศที่ถูกยกเลิกสามารถเปลี่ยนตั๋วเครื่องบินของพวกเขาไปโดยสารรถไฟแทน
ตลอดช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา เหล่านักบินได้หยุดงานประท้วงครั้งแล้วครั้งเล่า โดยในครั้งล่าสุดนี้นับเป็นครั้งที่ 13 แต่มีการงดเคลื่อนไหวไปช่วงระยะหนึ่งตอนที่เกิดเหตุร้ายกับเครื่องบินของเยอรมันวิงส์
ความขัดแย้งระหว่างทั้งสองฝ่ายนั้นมาจากเรื่องที่ลุฟท์ฮันซ่าต้องการยกเลิกข้อตกลงเรื่องเกษียณก่อนกำหนด ที่นักบินสามารถเกษียณได้ตอนอายุ 55 ปีแล้วรับค่าแรงไม่เกิน 60 เปอร์เซ็นต์ไปจนถึงอายุ 65 ปีที่ต้องเกษียณตามกฎหมาย