เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ทางการเซียร์ราลีโอนประกาศจับมือองค์การอนามัยโลก เร่งทำการฉีดวัคซีนสร้างภูมิต้านทานให้กับบรรดาสมาชิกในครอบครัว ตลอดจนผู้ที่มีประวัติการติดต่อกับ ผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้ออีโบลารายล่าสุดของประเทศ คาดมีผู้เข้าข่ายต้องรับวัคซีนกว่า 200 ราย
รายงานข่าวล่าสุดจากกรุงฟรีทาวน์ เมืองหลวงของเซียร์ราลีโอน ซึ่งอ้างคำแถลงของรัฐบาลเซียร์ราลีโอน ภายใต้การนำของประธานาธิบดีเออร์เนสต์ ไบ โคโรมา ที่ระบุว่า ทางการฯ จะเร่งประสานความร่วมมือกับทางองค์การอนามัยโลก (World Health Organisation : WHO) ซึ่งเป็นหน่วยงานในกำกับของสหประชาชาติในการฉีดวัคซีน เพื่อเร่งสร้างภูมิต้านทานให้กับประชาชนราว 200 คนที่ตรวจสอบพบว่ามีประวัติการอยู่ใกล้ชิดหรือเคยติดต่อกับเหยื่ออีโบลารายล่าสุดของประเทศที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ก่อน
อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ยังคงไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับชนิดของวัคซีน หรือตัวยาที่จะนำมาใช้ในการรณรงค์ฉีดวัคซีนในครั้งนี้แต่อย่างใด
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัฐบาลเซียร์ราลีโอน ภายใต้การนำของประธานาธิบดีเออร์เนสต์ ไบ โคโรมา และทางองค์การอนามัยโลกมีขึ้นไม่นานหลังจากที่ทางการเซียร์ราลีโอนเพิ่งแถลงยืนยันข่าวร้ายว่า พบผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสมรณะอีโบลารายใหม่ ซึ่งเท่ากับเป็นการดับความหวังของประเทศที่จะกลายเป็น “เขตปลอดเชื้อ” ลงอย่างสิ้นเชิง
โดยรายงานข่าวซึ่งอ้างการยืนยันจากกระทรวงสาธารณสุขของเซียร์ราลีโอนระบุว่า เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วมีผู้ติดเชื้ออีโบลาเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 รายเป็นสตรีในวัย 67 ปี ซึ่งมีอาชีพค้าขายและอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านเซลลา คัฟตาในเขตคัมเบีย ที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศกินีที่เป็นต้นตอของการแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลาในรอบนี้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นข่าวร้าย หลังจากที่ทางการเซียร์ราลีโอนเพิ่งออกโรงยืนยันว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะ “อีโบลา” รายสุดท้ายของประเทศที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ได้รับอนุญาตจากแพทย์ให้เดินทางกลับบ้านได้แล้วเมื่อ 24 สิงหาคม ส่งผลให้เซียร์ราลีโอนกำลังจะได้กลายเป็นดินแดนปลอดเชื้ออีโบลา (Ebola-free) เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี หากผ่านพ้นมาตรการเฝ้าระวังผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 42 วัน ตามระเบียบขององค์การอนามัยโลก
อย่างไรก็ดี โอบี ซิเซย์ ผู้อำนวยการศูนย์รับมืออีโบลาแห่งชาติ ของทางการเซียร์ราลีโอนออกมาเตือนว่า ยังคงมีความเสี่ยงที่อาจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ และว่าภารกิจในการต่อกรกับไวรัสมรณะชนิดนี้ยังอยู่ห่างไกลจากคำว่าเสร็จสิ้นหรือประสบความสำเร็จ
ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกล่าสุดระบุด้วยว่า จนถึงขณะนี้นอกจากเซียร์ราลีโอนแล้ว ก็ยังเหลือเพียง “กินี” อีกเพียงประเทศเดียวเท่านั้นในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกที่ยังมีรายงานผู้ติดเชื้ออีโบลารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล โดยที่กินีถือเป็นประเทศต้นตอ ของการระบาดของเชื้อไวรัสมรณะอีโบลาในระลอกนี้ ที่เริ่มต้นเมื่อช่วงปลายปี 2013
ทั้งนี้ การแพ่รระบาดของไวรัสอีโบลาระลอกล่าสุดซึ่งเกิดขึ้นในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 11,298 ราย จากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด 27,984 ราย โดยที่เซียร์ราลีโอนมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสอีโบลาไปทั้งสิ้น 3,951 ราย แต่ยังน้อยกว่าชาติเพื่อนบ้านอย่างไลบีเรียที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดถึง 4,808 ราย
