เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ทางการเซียร์ราลีโอนยืนยันผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะ “อีโบลา” รายสุดท้ายของประเทศที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ได้รับอนุญาตจากแพทย์ให้เดินทางกลับบ้านได้แล้ว ส่งผลให้เซียร์ราลีโอนกลายเป็นดินแดนปลอดเชื้ออีโบลาเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี แม้ยังต้องดำเนินมาตรการเฝ้าระวังผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 42 วัน ตามระเบียบขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization : WHO)
รายงานข่าวซึ่งอ้างคำแถลงของกระทรวงสาธารณสุขเซียร์ราลีโอนยืนยันว่า ผู้ป่วยซึ่งไม่มีการเปิดเผยชื่อและเพศรายหนึ่งซึ่งเดิมมีสถานะเป็นผู้ติดเชื้ออีโบลารายสุดท้ายของประเทศที่ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับบ้านได้แล้วเมื่อวันจันทร์ (24 ส.ค.) ที่ผ่านมา
ความเคลื่อนไหวล่าสุดส่งผลให้เซียร์ราลีโอนสามารถเริ่มนับถอยหลังช่วงเวลาเฝ้าระวังนาน 42 วันตามเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก หากผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้โดยไม่มีรายงานการพบผู้ติดเชื้ออีโบลารายใหม่อีก เซียร์ราลีโอนก็จะได้รับการรับรองให้เป็นดินแดนปลอดเชื้ออีโบลา (Ebola-free) อย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ดี โอบี ซิเซย์ ผู้อำนวยการศูนย์รับมืออีโบลาแห่งชาติ ของทางการเซียร์ราลีโอนออกมาเตือนว่ายังคงมีความเสี่ยงที่อาจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ และว่าภารกิจในการต่อกรกับไวรัสมรณะชนิดนี้ยังอยู่ห่างไกลจากคำว่าเสร็จสิ้น
ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกล่าสุดระบุว่า จนถึงขณะนี้ยังเหลือเพียง “กินี” ประเทศเดียวเท่านั้นในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกที่ยังมีรายงานผู้ติดเชื้ออีโบลารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล โดยที่กินีถือเป็นประเทศต้นตอของการระบาดของเชื้อไวรัสมรณะอีโบลาในระลอกนี้ที่เริ่มต้นเมื่อช่วงปลายปี 2013
ทั้งนี้ การแพ่รระบาดของไวรัสอีโบลาระลอกล่าสุดซึ่งเกิดขึ้นในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 11,298 ราย จากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด 27,984 ราย
โดยที่เซียร์ราลีโอนมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสอีโบลาไปทั้งสิ้น 3,951 ราย แต่ยังน้อยกว่าชาติเพื่อนบ้านอย่างไลบีเรียที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดถึง 4,808 ราย