ตำรวจฮังการีรับมือผู้อพยพนับพันที่เรียกร้องขอเดินทางไปเมืองเบียร์

เอเอฟพี - สื่อมวลชนรายงานว่า ผู้อพยพประมาณ 100 - 150 คน ได้ชุมนุมประท้วงบริเวณด้านนอกของสถานีรถไฟระหว่างประเทศในกรุงบูดาเปสต์ช่วงรุ่งสางวันพุธ (2 ก.ย.) ขณะที่ตำรวจฮังการีได้ทำการป้องกันไม่ให้ผู้อพยพเกือบ 2,000 รายขึ้นรถไฟไปออสเตรียและเยอรมัน

มีชายหญิงและเด็กประมาณ 600 คน ส่วนใหญ่มาจากซีเรีย อิรักและอัฟกานิสถาน พากันมารวมตัวอยู่บริเวณด้านนอกสถานีเคเลติ กับอีก 1,200 คนที่อยู่บริเวณชั้นล่างตรงพื้นที่ขนส่ง

ขณะเดียวกันก็มีผู้อพยพอีกราว 100 คนที่เพิ่งมาจากศูนย์ลงทะเบียนใกล้ชายแดนฮังการี-เซอร์เบีย พากันมานั่งบริเวณชานชลาของสถานีรถไฟแถบชานเมืองแห่งหนึ่ง โดยปฏิเสธที่จะขึ้นรถไฟไปยังค่ายผู้อพยพในเมืองเดเบรตเซน

ตำรวจระบุว่า กลุ่มคนเหล่านี้ได้เรียกร้องให้ยอมปล่อยให้พวกเขาเดินทางไปสู่เยอรมัน ส่วนทางตำรวจได้ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่จำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าการจราจรรถไฟจะไม่ถูกรบกวน

แค่สิงหาคมเดือนเดียว ฮังการีก็ต้องเจอกับผู้อพยพเข้าประเทศราว 50,000 ราย โดยในช่วงสัปดาห์นี้มีการยอมให้คนเหล่านี้จำนวนหลายพันคนโดยสารรถไฟไปยังออสเตรียและเยอรมัน แต่ในวันอังคารทางตำรวจได้เข้ามาขวางอย่างกระทันหัน ไม่ให้ผู้ที่ไร้วีซาของอียูเข้าสู่สถานีรถไฟ

รัฐบาลฮังการีของนายกรัฐมนตรี วิคเตอร์ ออร์บาน ที่สร้างรั้วลวดหนามตามแนวชายแดนติดเซอร์เบียเป็นระยะทาง 175 กิโลเมตร ได้ระบุว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่นั้นเป็นไปตามกฏของอียู

รั้วลวดหนาวได้ถูกพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเท่าไหร่ในการป้องกันผู้คนหลายหมื่นรายที่เดินเท้าจากกรีซไปประเทศแถบบอลข่าน โดยทางการฮังการีระบุว่า ในวันอังคารมีผู้อพยพข้ามแดนมากถึง 2,284 ราย ในจำนวนนั้นเป็นเด็ก 353 ราย

"ถ้ายุโรปยอมให้เราเข้าไป แล้วทำไมถึงไม่ยอมให้วีซากับเรา ทำไมพวกเราถึงต้องลักลอบเดินทางกันเองแบบนี้" ผู้อพยพชาวซีเรียรายหนึ่งบอกกับนักข่าวเมื่อวันอังคาร บริเวณชายแดนเซอร์เบีย-ฮังการี

"เรากลัวว่าวันหนึ่งทุกอย่างมันอาจจะเปลี่ยนไป แม้กระทั่งเยอรมันก็อาจจะปิดพรมแดนตอนที่พวกเขารับคนเข้าไปมากพอแล้ว ดังนั้นเราจึงต้องเร่งเดินทางให้เร็วที่สุด" เขากล่าว