เอเอฟพี – ประธานาธิบดี ออตโต เปเรซ แห่งกัวเตมาลา ถูกรัฐสภาลงมติเพิกถอนความคุ้มกันจากการถูกฟ้องร้อง (immunity) เมื่อวานนี้ (1 ก.ย.) เพื่อเปิดทางเอาผิดฐานบงการเครือข่ายทุจริตที่ทำให้รัฐต้องสูญเสียรายหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ผู้พิพากษากัวเตมาลาได้ออกคำสั่งห้าม เปเรซ เดินทางออกนอกประเทศ เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่สมาชิกรัฐสภา 132 คนที่เข้าร่วมการประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้เพิกถอนสิทธิ์ความคุ้มกันทางกฎหมาย ซึ่งเป็นโล่ป้องกัน เปเรซ จากการถูกดำเนินคดี
เปเรซ ซึ่งเป็นอดีตนายพลสายอนุรักษ์นิยม กลายเป็นประธานาธิบดีคนแรกของกัวเตมาลาที่ถูกเพิกถอนความคุ้มกันดังกล่าว
ประชาชนซึ่งมาปักหลักชุมนุมที่หน้าอาคารรัฐสภาต่างเปล่งเสียงโห่ร้องด้วยความยินดี แม้กระทั่งรถยนต์ที่ผ่านไปมาก็บีบแตรดังลั่นเพื่อเฉลิมฉลองมติครั้งประวัติศาสตร์ของรัฐสภา
ผลจากการโหวตจะทำให้อัยการสามารถยื่นฟ้อง เปเรซ วัย 64 ปี ในข้อหาอยู่เบื้องหลังขบวนการรีดสินบนจากนักธุรกิจ เพื่อแลกกับการจ่ายภาษีน้อยลง
ตามกฎหมายของกัวเตมาลา เปเรซ จะถูกปลดจากตำแหน่งประธานาธิบดีทันทีที่ผู้พิพากษามีคำสั่งให้ส่งตัวไปคุมขังเพื่อรอการพิจารณาคดี
ทีมทนายของ เปเรซ ได้ยื่นหนังสือคัดค้านมติรัฐสภาต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งคาดว่าจะมีคำพิพากษาชี้ขาดภายในวันพรุ่งนี้ (3)
คณะกรรมการสอบสวนแห่งรัฐสภาได้แนะนำให้มีการเพิกถอนความคุ้มกันทางกฎหมายของ เปเรซ ตั้งแต่ 3 วันที่แล้ว
เปเรซ เคยรอดจากการโหวตลักษณะนี้มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อเดือนสิงหาคม แต่หลังจากนั้นไม่นาน อัยการและพนักงานสอบสวนจากคณะกรรมาธิการพิเศษสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริตรับสินบน ก็ได้ออกมากล่าวหาเขาว่าอยู่เบื้องหลังขบวนการรีดไถเงินสินบนจากนักธุรกิจ
เปเรซ ยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหา และเมินเฉยต่อเสียงเรียกร้องของผู้ประท้วงที่ต้องการให้เขาลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี
“ผมไม่เคยได้รับเงินแม้แต่เซนต์เดียวจากเครือข่ายฉ้อโกงพวกนี้... ผมขอย้ำจุดยืนเดิมที่มีต่อข้อกล่าวหาของอัยการ” เขาเปิดแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ (31 ส.ค.) พร้อมยืนยันว่า “ไม่วิตกทุกข์ร้อนใดๆ” แม้จะถูกตั้งข้อหาร้ายแรง
เปเรซ ซึ่งเข้ามาบริหารประเทศตั้งแต่ปี 2012 ถูกห้ามโดยรัฐธรรมนูญไม่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งซ้ำอีก หลังจากที่หมดวาระดำรงตำแหน่งในวันที่ 14 มกราคม ปีหน้า
มานูเอล บัลดิซอน หัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตยใหม่ ซึ่งเป็นตัวเก็งที่คาดว่าจะคว้าตำแหน่งผู้นำกัวเตมาลาไปครองในสมัยหน้า ก็มีส่วนเรียกร้องให้รัฐสภาเพิกถอนความคุ้มกันของ เปเรซ ด้วย