เอเจนซีส์ - กระแสรณรงค์ควบคุมอาวุธปืนในอเมริกาตื่นตัวขึ้นอีกครั้ง หลังเหตุการณ์อดีตพนักงานจ่อยิงนักข่าวและตากล้องของสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นที่ตนเองเคยทำงานอยู่ เสียชีวิตคาที่ระหว่างออกอากาศสดเมื่อวันพุธ (26 ส.ค.) โดยทิ้งข้อความระบายความรู้สึกยาวเหยียดก่อนยิงตัวตายตาม ระบุว่า ตนคือ “ถังดินปืนมนุษย์” ที่รอวันระเบิด จากการถูกเหยียดผิวและกลั่นแกล้งในที่ทำงาน เพียงเพราะเป็น “เกย์ผิวสี”
เวสเตอร์ ลี ฟลานาแกน วัย 41 ปี หรือที่รู้จักกันในชื่อ ไบรซ์ วิลเลียม ซึ่งเป็นมือปืนที่ก่อเหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้ ได้โพสต์คลิปการสังหาร อลิสัน พาร์คเกอร์ ผู้สื่อข่าวสาววัย 24 ปี และ อดัม วอร์ด ตากล้องวัย 27 ปี ของสถานีทีวีช่อง WDBJ ในเครือ CBS แห่งเมืองโรอาโนค มลรัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันพุธ ลงบนเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์
คลิปดังกล่าวซึ่งดูเหมือนว่า ฟลานาแกน เป็นผู้ถ่ายเอง ได้เผยให้เห็นว่าผู้เสียชีวิตทั้งคู่ถูกยิงในระยะเผาขน แต่หลังจากโพสต์ขึ้นไปไม่นานนักก็ถูกลบออก
ทั้ง พาร์คเกอร์ และ วอร์ด ดูเหมือนมองไม่เห็นตัวมือปืนที่กำลังคุกคามเข้าใกล้พวกเขา
ระหว่างเกิดเหตุ พาร์คเกอร์กำลังสัมภาษณ์ วิกกี การ์ดเนอร์ วัย 62 ปี ประธานหอการค้าสมิธ เมาน์เทน เลค ที่บริดต์วอเตอร์ รีสอร์ต ในเมืองโมนิตา ใกล้ ๆ กับเมืองโรอาโนค ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐเวอร์จิเนีย โดยการ์ดเนอร์เป็นคนเดียวที่รอดชีวิต และล่าสุด ได้รับการรักษาตัวในโรงพยาบาลโดยมีอาการทรงตัวแล้วภายหลังเข้ารับการผ่าตัดฉุกเฉิน ทั้งนี้ เหยื่อทั้งสามต่างเป็นคนผิวขาว
จากคลิปเหตุการณ์ซึ่งถูกนำออกเผยแพร่อย่างกว้างขวาง ระหว่างที่พาร์คเกอร์สัมภาษณ์การ์ดเนอร์ ก็มีเสียงปืนหลายนัดและเสียงกรีดร้องดังขึ้น แล้วกล้องร่วงจากมือวอร์ดลงสู่พื้น เผยให้เห็นภาพระทึกขวัญที่มือปืนเล็งอาวุธลงที่พื้น ก่อนที่สถานีจะตัดภาพกลับไปที่ผู้ประกาศข่าวในห้องส่งที่มีอาการตื่นตระหนกอย่างชัดเจน
ในเวลาต่อมา ฝ่ายข่าวของเครือข่ายโทรทัศน์เอบีซี (เอบีซี นิวส์) ที่นิวยอร์ก รายงานว่า ได้รับแฟกซ์ความยาว 23 หน้าจากชายที่ระบุชื่อว่า ไบรซ์ วิลเลียมส์ หลังเหตุจ่อยิงผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง แล้วจากนั้น ชายคนดังกล่าวยังโทรศัพท์ไปที่สถานีเพื่อสารภาพว่า ตนเป็นคนยิงนักข่าวและตากล้องของ WDBJ พร้อมบอกว่า กำลังถูกเจ้าหน้าที่ทางการตามล่าก่อนวางสายไป ต่อมา ฟลานาแกนได้ยิงตัวเองระหว่างขับรถหนีการติดตามของตำรวจบนทางหลวงของมลรัฐเวอร์จิเนีย และตำรวจเผยว่ามือปืนรายนี้ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
ในแฟกซ์ดังกล่าว ฟลานาแกน ซึ่งเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน และถูก WDBJ ปลดออกในปี 2013 บอกว่า ได้แรงบันดาลใจจากเหตุการณ์มือปืนหนุ่มผิวขาวบุกกราดยิงโบสถ์คนดำในมลรัฐเซาท์แคโรไลนาเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และบอกว่า ตนเองเป็น “ถังดินปืนมนุษย์ที่รอวันระเบิด”
เขายังบรรยายเอาไว้ในแฟกซ์ที่ใช้ชื่อว่า “บันทึกการฆ่าตัวตายส่งถึงเพื่อนและครอบครัว” โดยระบุว่า ถูกเลือกปฏิบัติจากสีผิวและถูกกลั่นแกล้งในที่ทำงานเพราะเป็น “เกย์ผิวสี”
ทางด้าน เจฟฟรีย์ มาร์คส์ ผู้จัดการทั่วไปของ WDBJ ให้สัมภาษณ์ว่า ฟลานาแกนถูกเลิกจ้างหลังจากแสดงพฤติกรรมโกรธแค้นออกมาอย่างชัดเจนหลาย ๆ ครั้ง
นอกจากสร้างความเศร้าโศกในหมู่เพื่อนฝูง ครอบครัว และชุมชนแล้ว โศกนาฏกรรมครั้งนี้ซึ่งเกิดขึ้นใกล้กับที่เกิดเหตุกราดยิงในมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย เทค เมื่อปี 2007 ยังปลุกกระแสการวิจารณ์การควบคุมปืนในอเมริกาอีกครั้ง
ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ให้สัมภาษณ์สถานีทีวีในเครือ ABC ในเมืองฟิลาเดลเฟีย ว่า สะเทือนใจทุกครั้งที่ได้รับรู้ข่าวทำนองนี้
ขณะที่ แอนดี พาร์คเกอร์ พ่อของผู้สื่อข่าวหญิงที่เสียชีวิต เรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการเพื่อควบคุมการเข้าถึงอาวุธปืน
อย่างไรก็ดี แม้มีเหตุกราดยิงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทว่า บรรดาสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ กลับลังเลที่จะสนับสนุนกฎหมายที่ควบคุมการเข้าถึงปืนเข้มงวดขึ้น ส่วนหนึ่งเนื่องจากไม่อยากขัดใจกลุ่มผู้สนับสนุนของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มล็อบบี้ทรงอิทธิพลที่ยืนหยัดปกป้องสิทธิ์ในการพกพาอาวุธอย่างถูกต้องตามกฎหมายภายใต้รัฐธรรมนูญ
ตามรายงานข่าวระบุว่า อาวุธปืนที่ฟลานาแกนใช้นั้นซื้อหามาโดยถูกกฎหมาย
นอกจากนั้น เหตุการณ์นี้ยังก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับการที่อินเทอร์เน็ต กลายเป็นช่องทางเผยแพร่อาชญากรรมสะเทือนขวัญอย่างรวดเร็วทันใจแต่ไร้การกลั่นกรอง