เอเอฟพี - เกาหลีใต้ออกมาระบุในวันอาทิตย์ (23 ส.ค.) กล่าวหาเกาหลีเหนือว่ากำลังบ่อนทำลายการเจรจาระดับสูงที่มีขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าทางทหาร แฉมีการจัดส่งเรือดำน้ำหลายสิบลำพร้อมเพิ่มหน่วยปืนใหญ่เป็นสองเท่าตามแนวชายแดน
โฆษกกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ระบุว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของเรือดำน้ำเกาหลีเหนือ หรือประมาณ 50 ลำ ได้ออกจากฐานและหายไปจากจอเรดาร์ของกองทัพเกาหลีใต้
โฆษกฯ บอกว่า ความเคลื่อนไหวของเรือดำน้ำจำนวนมากขนาดนี้นับว่าไม่เคยมีมาก่อน ทางเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ กำลังเพิ่มการตรวจตราทางทหารเพื่อเตรียมรับมือ
“เกาหลีเหนือยังได้เพิ่มจำนวนหน่วยปืนใหญ่เป็น 2 เท่า ตามแนวชายแดนติดเกาหลีใต้ที่มีการเสริมกำลังป้องกันแน่นหนา” โฆษกกล่าว
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะเจ้าหน้าที่จากทั้งสองชาติเกาหลีกลับมาเจรจากันต่อเพื่อลดความตึงเครียดทางทหาร หลังจากที่เจรจารอบแรกกันอย่างยาวนานในตอนกลางคืน แต่ยังไม่อาจบรรลุข้อตกลงอะไรกันได้
“เกาหลีเหนือกำลังตีสองหน้าขณะที่การเจรจากำลังดำเนินอยู่” โฆษกกล่าว
สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้ รายงานคำพูดของเจ้าหน้าที่กองทัพรายหนึ่งที่บอกว่า เป็นการจัดส่งเรือดำน้ำออกจากฐานครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่สิ้นสงครามเกาหลีช่วงปี 1950-1953
“นี่เป็นจำนวนเกือบ 10 เท่าของระดับปกติ มันเป็นสถานการณ์ที่มีความร้ายแรงมาก” เจ้าหน้าที่ของกองทัพผู้ไม่เปิดเผยนาม บอกนักข่าว
สถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีได้ระอุขึ้น หลังจากทางฝั่งใต้กล่าวหาฝั่งเหนือว่าฝังกับระเบิดไว้ตามแนวชายแดนจนทำให้ทหารเกาหลีใต้ 2 นายต้องกลายเป็นคนพิการ
เกาหลีเหนือปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ อย่างไรก็ตาม เกาหลีใต้ตัดสินใจตอบโต้ด้วยการกลับมาเล่นสงครามจิตวิทยาโดยใช้ลำโพงกระจายเสียงข้อความชวนเชื่อตามแนวชายแดนเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา
คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ได้สั่งกองทัพของเขาให้เตรียมพร้อมทำการรบ หลังจากทั้งสองฝ่ายมีการยิงจรวด-ปืนใหญ่ข้ามชายแดนเข้าใส่กันเมื่อวันพฤหัสบดี แม้จะมีการระบุว่าไม่มีผู้บาดเจ็บล้มตาย แต่ความตึงเครียดระหว่างทั้งสองฝ่ายก็เพิ่มสูงขึ้น