เอเอฟพี/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันตลาดสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี (20 ส.ค.) ฟื้นเล็กน้อย พักหายใจหลังร่วงลงหนักหนึ่งวันก่อนหน้านี้ท่ามกลางความกังวลต่อภาวะอุปทานล้น ส่วนดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 2 เปอร์เซ็นต์ จากความวิตกต่อสถานะของเศรษฐกิจโลก ปัจจัยนี้กระตุ้นให้นักลงทุนแก่ถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ดันทองคำพุ่งทะยาน
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 34 เซ็นต์ ปิดที่ 41.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 54 เซ็นต์ ปิดที่ 46.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันเวสต์เทกซัสขยับลงมาแล้วกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ จากระดับสูงสุดในรอบปีเมื่อเดือนมิถุนายน ขณะที่การฟื้นตัวในวันพฤหัสบดี (20 ส.ค.) นอกเหนือจากแรงช้อนซื้อของนักลงทุนแล้ว ยังเป็นผลจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี (20 ส.ค.) ปิดลบมากกว่า 2 เปอร์เซ็นต์ โดยดาวโจนส์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดของปี 2005 จากกระแสความกังวลต่อภาวะความเปราะบางของเศรษฐกิจโลก
ดาวโจนส์ ลดลง 358.04 จุด (2.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,990.69 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 43.88 จุด (2.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,035.73 จุด แนสแดค ลดลง 141.56 จุด (2.82 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,877.49 จุด
ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (20 ส.ค.) เป็นไปตามทิศทางของตลาดหุ้นเอเชียไปจนถึงยุโรป ที่ดิ่งลงอย่างหนักจากแรงเทขายอย่างกว้างขวาง ท่ามกลางความกังวลมากขึ้นว่าภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของจีนอาจฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
ตอกย้ำถึงข้อวิตกดังกล่าว ใน minutes รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) บ่งชี้ว่ากรรมการเฟดยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับกำหนดการในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะเดียวกัน เฟดยังแสดงความกังวลต่อปัจจัยต่างๆ ที่กระทบเศรษฐกิจโลก ซึ่งได้แก่ราคาน้ำมันที่ดิ่งลง และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
ด้วยตลาดหุ้นสหรัฐฯ และอื่นๆ ทั่วโลกร่วงลงหนัก กระพือความวิตกแก่นักลงทุน จนต้องหันไปถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งเป็นผลให้ราคาทองคำเมื่อวันพฤหัสบดี (20 ส.ค.) พุ่งทะยานอย่างแรง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 25.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,153.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
