เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - รัฐบาลสาธารณรัฐจิบูตี (Djibouti) เปิดไฟเขียวให้จีนเข้ามาตั้งฐานทัพถาวรเป็นครั้งแรกในประเทศของตน หลังจากก่อนหน้านี้อดีตดินแดนอาณานิคมของฝรั่งเศสแห่งนี้ ได้เปิดให้สหรัฐอเมริกาเข้ามาใช้ฐานทัพถึง 2 แห่ง
รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า ประธานาธิบดี อิสมาอิล โอมาร์ กูเอลเลห์ แห่งจิบูตี ตัดสินใจออกคำสั่งให้สหรัฐอเมริกาสละการครอบครอง “ฐานทัพโอบ็อก” ในจิบูตีให้กับจีน เพื่อเปิดทางให้รัฐบาลปักกิ่งส่งกำลังทหารจากแดนมังกรราว 10,000 นาย เข้ามาประจำการแทนที่กำลังทหารอเมริกัน
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลจิบูตีอนุญาตให้สหรัฐฯ ส่งกำลังทหารเข้าประจำการเป็นการถาวร ณ ฐานทัพ 2 แห่ง คือ แคมป์ เลอมงนิเยร์ และที่ค่ายโอบ็อก
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวทางการทูตในภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก เปิดเผยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลจิบูตีและสหรัฐอเมริกาเริ่มร้าวฉาน หลังทางการจิบูตีพบหลักฐานว่า สหรัฐฯเข้ามาใช้ฐานทัพทั้งสองแห่งของจิบูตี เป็นฐานสำหรับเปิดการโจมตีด้วยโดรนหรืออากาศยานไร้นักบิน ต่อเป้าหมายในหลายประเทศในตะวันออกกลาง และการโจมตีด้วยโดรนของสหรัฐฯนี้ส่งผลให้มีพลเรือนชาวมุสลิมเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก จนสร้างความไม่พอใจให้แก่จิบูตี ซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม
รายงานข่าวระบุว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลอเมริกันจ่ายเงินปีละเกือบ 63 ล้านดอลลาร์ให้กับรัฐบาลจิบูตีเพื่อแลกกับการใช้ประโยชน์ฐานทัพทั้งสองแห่ง อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า ทางการจีนเสนอตัวจะสร้างเส้นทางรถไฟมูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์ จากกรุงแอดดิสอาบาบา เมืองหลวงของเอธิโอเปียมายังจิบูตี พร้อมทั้งยื่นข้อเสนอเป็นเงินลงทุนจำนวน 400 ล้านดอลลาร์ เพื่อปรับปรุงท่าเรือให้กับจิบูตี เป็นข้อแลกเปลี่ยนกับการที่จีน จะได้สิทธิในการเข้าใช้ประโยชน์จากฐานทัพโอบ็อคในครั้งนี้แม้จะยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า การส่งกำลังทหารจีนเข้ามายังจิบูตีนั้นจะเริ่มดำเนินการได้เมื่อใด
ล่าสุด ทางกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ตลอดจนทางเพนตากอน หรือกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ออกคำแถลงคัดค้านการตัดสินใจของรัฐบาลจิบูตี ที่สั่งให้สหรัฐฯยกฐานทัพในความดูแล 1 แห่ง ให้กับจีน แต่ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใด ๆ ต่อ การส่งกำลังทหารเรือนหมื่นของจีนเข้ามายังทวีปแอฟริกา