เอเอฟพี - สถานีโทรทัศน์ของสหรัฐฯ รายงานเมื่อวานนี้ (14 ส.ค.) ว่า เคย์ลา มูเอลเลอร์ ตัวประกันหญิงชาวอเมริกันถูก อาบู บัคร์ อัล-แบกดาดี ผู้นำของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ข่มขืนซ้ำหลายครั้งก่อนที่เธอจะเสียชีวิต
เอบีซีนิวส์รายงานว่า แบกดาดีได้นำตัวผู้ปฏิบัติงานบรรเทาทุกข์วัย 26 ปีรายนี้มาคุมขังในบ้านของผู้จัดการการเงินระดับสูงของกลุ่มด้วยตนเอง
สถานีโทรทัศน์แห่งนี้รายงานโดยอ้างจากเจ้าหน้าที่ต่อต้านการก่อการร้ายของสหรัฐฯ และได้คุยกับพ่อแม่ของมูเอลเลอร์ ซึ่งยืนยันสิ่งที่เจ้าหน้าที่รัฐบอกมาว่าลูกสาวของพวกเขาถูกแบกดาดีล่วงละเมิดทางเพศ
“รัฐบาลบอกกับเราในเดือนมิถุนายนว่า เคย์ลาถูกทรมานว่าเธอเป็นทรัพย์สินของอัล-แบกดาดี” คาร์ลและมาร์ชา มูเอลเลอร์ บอกกับเอบีซีนิวส์
ผู้นำกลุ่มหัวรุนแรงชาวอิรักรายนี้มักไปเยือนสถานที่ดังกล่าวเพื่อพบกับ อาบู เซย์ยาฟ ผู้จัดการการเงินของเขา และเพื่อล่วงละเมิดทางเพศ มูเอลเลอร์ เอบีซี ระบุ
พวกนักรบไอเอสอ้างว่า มูเอลเลอร์ซึ่งถูกลักพาตัวในเมืองอะเลปโปของซีเรียในเดือนสิงหาคมปี 2013 ถูกสังหารในการโจมตีทางอากาศของกลุ่มพันธมิตรเมื่อวันที่ 6 กุมภาพพันธ์ ซึ่งทำให้เธอถูกฝังในกองซากอิฐปูน แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่าสภาพแวดล้อมในการเสียชีวิตของเธอยังไม่เป็นที่แน่ชัด
อาบู ไซยาฟ ถูกสังหารเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมาในการบุกโจมตีของหน่วยรบพิเศษสหรัฐฯ ที่เมืองอัล-โอมาร์ในประเทศที่อยู่ท่ามกลางไฟสงครามอย่างซีเรีย
การเปิดเผยเกี่ยวกับชะตากรรมอันโหดร้ายของมูเอลเลอร์ครั้งใหม่นี้ลบล้างข่าวลือที่ว่าเธอให้ความร่วมมือหรือเป็นภรรยานักรบญิฮาดกลุ่มนี้โดยเต็มใจ ข่าวซึ่งสร้างความกลัดกลุ่มให้กับครอบครัวของเธออย่างมาก เอบีซี รายงาน
เอบีซีระบุว่า ข้อมูลเกี่ยวกับการมีบทบาทโดยตรงของแบกดาดีในการทารุณเธอมาจากแหล่งข่าวหลากหลายแหล่ง รวมถึงจากการที่สหรัฐฯ ได้สอบสวนเด็กสาวชาวยาซิดี 2 รายที่ถูกจับเป็นทาสกามในบ้านของอาบู ไซยาฟ และการสอบปากคำภรรยาของ อาบู ไซยาฟ ทั้งนี้ มูเอลเลอร์จะอายุครบ 27 ปีในวันศุกร์ (28)
จอห์น แม็กเคน วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันจากรัฐแอริโซนาบ้านเกิดของมูเอลเลอร์ เรียกร้องให้รัฐบาลอธิบายว่า เหตุใดภรรยาม่ายของอาบู ไซยาฟ จึงไม่ถูกส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนมายังสหรัฐฯ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา
แม้ว่าสหรัฐฯ จะระบุว่า เธอเป็น “ผู้สมรู้ร่วมคิด” ในการกักขังมูเอลเลอร์ แต่เธอถูกส่งตัวไปให้กับทางการเคิร์ดในอิรักแล้ว แมคเคนได้ตั้งคำถามถึงเหตุผลที่เธอหลีกเลี่ยงระบบยุติธรรมของสหรัฐฯ