เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ผลสำรวจล่าสุดในบราซิลชี้คะแนนนิยมของประธานาธิบดีดิลมา รูสเซฟฟ์ ผู้นำหญิงแดนแซมบ้า ลดต่ำลงเหลือเพียง 8 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ที่เธอก้าวขึ้นครองอำนาจเมื่อปี 2011 ในฐานะประธานาธิบดีคนที่ 36 ของบราซิล
ผลสำรวจดังกล่าวซึ่งจัดทำโดยสำนักวิจัย “ดาตาโฟลญา” ซึ่งทำการรวบรวมความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างชาวบราซิลที่มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 3,358 รายจากทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคมที่ผ่านมา และนำมาเผยแพร่ในวันเสาร์ (8 ส.ค.) ระบุว่า ในขณะนี้มีชาวบราซิลเพียง 8 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ระบุว่าพวกเขามีความพึงพอใจในผลงานการบริหารประเทศของประธานาธิบดีหญิงดิลมา รูสเซฟฟ์
ขณะที่กลุ่มตัวอย่างมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่า พวกเขารู้สึก “ไม่ปลื้ม” กับการทำหน้าที่ประธานาธิบดีของรูสเซฟฟ์ ผู้นำหญิงในวัย 67 ปี
รายงานข่าวระบุว่า ในจำนวนกลุ่มตัวอย่างมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ที่ระบุว่าไม่พอใจต่อผลงานการบริหารประเทศของรูสเซฟฟ์นั้นมีถึง 71 เปอร์เซ็นต์ที่ประเมินว่า ผลงานการบริหารประเทศของเธออยู่ในระดับ “แย่” หรือถึงขั้น “เลวร้าย”
ผลสำรวจล่าสุดยังระบุว่า 66 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างมีความเห็นว่า รูสเซฟฟ์ สมควรถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง มากกว่าที่จะปล่อยให้เธออยู่บริหารประเทศต่อไปจนครบวาระสมัยที่ 2 ในปี ค.ศ. 2018
ทั้งนี้ คะแนนนิยมที่ลดต่ำลงของนางรูสเซฟฟ์ถุกระบุว่า มาจากความล้มเหลวของเธอในการแก้ปัญหาความตกต่ำฝืดเคืองทางเศรษฐกิจ อัตราการว่างงานที่พุ่งสูง ตลอดจนความล้มเหลวในการแก้ปัญหาทางสังคม และเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริตภายในรัฐบาลของเธอซึ่งรวมไปถึงการรับเงินสินบนจาก “เปโตรบราส” บรรษัทพลังงานแห่งชาติของบราซิลซึ่งได้ชื่อว่าเป็นองค์กรธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดใน “ซีกโลกใต้”