เอเอฟพี – ศาลรัฐโคโลราโดประกาศคำพิพากษาวานนี้ (7 ส.ค.) ให้จำคุกตลอดชีวิต “เจมส์ โฮล์มส” วัย 27 ปี ซึ่งก่อเหตุกราดยิงโรงภาพยนตร์ในเมืองออโรราเมื่อปี 2012 จนทำให้ผู้ที่กำลังชมภาพยนตร์ “แบทแมน” เสียชีวิตไป 12 ศพ โดยนักโทษไม่มีสิทธิ์ขอทำทัณฑ์บน หลังคณะลูกขุนมีมติไม่เป็นเอกฉันท์ว่าสมควรลงโทษประหารชีวิตอดีตนักศึกษาปริญญาเอกของมหาวิทยาลัยโคโลราโดผู้นี้หรือไม่
เดือนที่แล้ว ศาลได้ตัดสินว่า โฮล์มส มีความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนารวม 12 กระทง และยังมีข้อหาอื่นๆ อีก เช่น ฆาตกรรม, พยายามฆ่า และมีวัตถุระเบิดในครอบครอง แต่ทนายฝ่ายจำเลยแย้งว่าเขามีอาการทางประสาท และขอให้คณะลูกขุนเมตตาลดหย่อนโทษให้
ในข้อหาฆ่าคนโดยเจตนา 12 กระทงซึ่งล้วนแต่มีโทษตายทั้งสิ้น คณะลูกขุนแถลงต่อศาลว่า “เราไม่สามารถลงมติที่เป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับบทลงโทษในข้อหานี้ได้... และเข้าใจว่าศาลคงจะตัดสินจำคุกตลอดชีวิต โดยปราศจากโอกาสทำทัณฑ์บน”
โฮล์มส ซึ่งสวมเสื้อเกราะและย้อมผมสีส้มทั้งหัว ได้ถือปืนเข้าไปกราดยิงผู้คนในโรงหนังเซ็นจูรี 16 เมืองออโรรา เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ปี 2012 ซึ่งขณะนั้นกำลังฉายภาพยนตร์เรื่องแบทแมน “เดอะ ดาร์ก ไนต์ ไรเซส” จนทำให้มีคนเสียชีวิตไป 12 ราย ในจำนวนนั้นมีเด็กอายุเพียง 6 ขวบรวมอยู่ด้วย
อีก 3 ปีให้หลัง ศาลรัฐโคโลราโดได้ตัดสินให้ โฮล์มส มีความผิดรวม 165 กระทง และคณะลูกขุนไม่ยอมรับข้อกล่าวอ้างของทนายที่ว่าจำเลยปราศจากความผิดเพราะมีอาการทางจิต
ด้านอัยการแย้งว่า โฮล์มส สมควรถูกลงโทษประหารชีวิตโดยการฉีดยาพิษ
“เขาสามารถเลือกช่วงเวลา ลักษณะ และวิธีการสังหารเหยื่อได้ แล้วอย่างนี้สมควรหรือที่จะโดนแค่จำคุกตลอดชีวิต” จอร์จ โบรชเลอร์ อัยการแขวง ระบุในคำแถลงเมื่อวันพฤหัสบดี(6 ส.ค.)
อย่างไรก็ดี ผู้ช่วยทนายของรัฐ ทามาร์ เบรดี ไม่เห็นด้วยในประเด็นนี้ โดยกล่าวก่อนที่คณะลูกขุนจะอ่านคำวินิจฉัยว่า “กระบวนการยุติธรรมที่ไร้ความเมตตาก็ไม่ต่างอะไรกับการแก้แค้น”
“การขอให้คุณฆ่าสัตว์ร้ายสักตัวมันง่ายกว่าการฆ่าคนที่ป่วยทางจิต... โศกนาฏกรรมครั้งนี้มีสาเหตุมาจากอาการป่วยของเขา” เธอกล่าว
ทั้งนี้ โฮล์มส ยังมีความผิดฐานพยายามฆ่าอีก 140 กระทง โดยศาลจะตัดสินโทษในภายหลัง