บุรีรัมย์ - สลด “ร.ต.ท.” รอง สวป.สภ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ เครียดปัญหาสุขภาพรุมเร้าทั้งเคยเข้ารักษาอาการทางจิตมาเกือบ 1 ปี จนล่าสุด ผู้บังคับบัญชาให้หยุดงานไปรักษาตัว แต่อาการกำเริบหนักถึงขั้นคิดสั้นใช้ปืนประจำกายยิงขมับตัวเองดับคาบ้าน ก่อนแพทย์นัดตรวจ และบำบัดรักษาอาการทางจิตเพียงวันเดียว
วันนี้ (6 พ.ค.) ร.ต.ท.สำเร็จ รักษาวัฒนะ ร้อยเวร สภ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งศูนย์วิทยุสื่อสาร ว่า มีเหตุข้าราชการตำรวจยิงตัวเองที่บ้านพักอาการสาหัส ทราบชื่อภายหลังคือ ร.ต.ท.สมโภช เพชรเลิศ อายุ 42 ปี เป็นรองสารวัตรป้องกันและปราบปราม (สวป.) สภ.ห้วยราช จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชวาล อุทัยพันธุ์ ผกก.สภ.ห้วยราช พ.ต.ท.วิมล วรรณาลัย รอง ผกก.ป.สภ.ห้วยราช
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ เป็นบ้านเลขที่ 58 ม.8 ต.บ้านตะโก อ.ห้วยราช พบเพียงกองเลือด และอาวุธปืนพกสั้นแบบออโตเมติกตกอยู่ จำนวน 1 กระบอก และปลอกกระสุนปืนอยู่บริเวณพื้น 1 ปลอก ส่วน ร.ต.ท.สมโภช ที่ใช้อาวุธปืนยิงเองบาดเจ็บสาหัสนั้นญาติและเพื่อนบ้านได้ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ เพื่อให้แพทย์ช่วยชีวิตก่อนหน้านี้แล้ว แต่เนื่องจากกระสุนได้ถูกจุดสำคัญจึงได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบสภาพศพพบร่องรอยกระสุนปืนยิงเข้าบริเวณขมับด้านขวาเหนือใบหู กระสุนฝังใน 1 นัด
จากการสอบถาม นางภัศรา เพชรเลิศ อายุ 42 ปี ภรรยาของ ร.ต.ท.สมโภช กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าหลังอาบน้ำเสร็จ และกำลังไปแต่งตัวเพื่อจะไปเปิดร้านขายของตามปกติ ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัดบริเวณหลังห้องน้ำ จึงรีบวิ่งไปดูก็พบว่าสามีได้ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงศีรษะตัวเองเพื่อหวังฆ่าตัวตาย นอนหายใจรวยรินอยู่บริเวณพื้น จึงได้ตะโกนเรียกญาติ และเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงให้มาช่วยนำสามีส่งโรงพยาบาล แต่เนื่องจากมีอาการสาหัสเพราะถูกยิงบริเวณขมับ จึงได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล
นางภัศรา ภรรยา ยังกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ก่อนหน้านี้สามีเคยเข้ารับการรักษาอาการทางจิต ที่โรงพยาบาลมาเกือบ 1 ปีแล้ว และยังคงเข้ารับการรักษา และกินยาอยู่อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง กระทั่งล่าสุด เมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา ทางผู้บังคับบัญชาได้ให้หยุดงานเพื่อไปรักษาอาการป่วย แต่สามีกลับมีอาการกำเริบหนักขึ้น และเคยบ่นว่าอยากตายหลายครั้ง ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (7 พ.ค.) เป็นวันที่หมอนัดไปตรวจเพื่อบำบัดรักษาอาการทางจิตที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ แต่ไม่คิดว่าสามีจะมาคิดสั้นยิงตัวตายเสียก่อน ทิ้งให้ตนต้องเลี้ยงดูลูก 2 คนเพียงลำพัง