เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (ดีโอเจ) เผยข้อมูลล่าสุดในวันพุธ (5 ส.ค.) โดยระบุว่ามีผู้กระทำความผิดสูงถึง 4,446 รายที่เสียชีวิตระหว่างการถูกควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วสหรัฐฯ ในปี 2013 ปีล่าสุดที่มีการประมวลผลข้อมูลเสร็จสิ้น ถือเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันแล้วที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นระหว่างถูกตำรวจเมืองลุงแซมควบคุมตัว
รายงานฉบับล่าสุดนี้ซึ่งจัดทำโดยสำนักงานสถิติยุติธรรมของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตระหว่างถูกตำรวจสหรัฐฯ ควบคุมตัวในปี 2013 ที่มีทั้งสิ้น 4,446 รายนั้น ถือเป็นตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้น 131 รายจากเมื่อปี 2012
ขณะเดียวกัน ข้อมูลดังกล่าวยังส่งผลให้ปี 2013 กลายเป็นปีนองเลือดที่มีผู้เสียชีวิตระหว่างถูกตำรวจอเมริกันควบคุมตัวสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่ที่มีการสำรวจข้อมูลในเรื่องนี้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2007 เป็นต้นมา
รายงานของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ฉบับล่าสุดนี้ระบุด้วยว่า สาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่ 1 ของผู้ที่อยู่ระหว่างการถูกควบคุมตัวโดยตำรวจสหรัฐฯ คือ “การฆ่าตัวตาย” ซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 34 เปอร์เซ็นต์ของการเสียชีวิตทั้งหมดของผู้ถูกควบคุมตัว โดยข้อมูลระบุว่า เมื่อปี 2012 มีผู้ที่ฆ่าตัวตายระหว่างถูกตำรวจควบคุมตัวในสหรัฐฯ ถึง 300 ราย แต่ในปี 2013 ตัวเลขได้เพิ่มขึ้นเป็น 327 ราย
ข้อมูลล่าสุดที่ถูกเผยแพร่โดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่า มลรัฐแคลิฟอร์เนีย และมลรัฐเทกซัส ถือเป็น 2 มลรัฐที่มีสถิติผู้เสียชีวิตระหว่างการถูกตำรวจควบคุมตัวสูงที่สุด คิดเป็นสัดส่วนราว 23 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้เสียชีวิตระหว่างการถูกควบคุมตัวทั้งหมดในเมืองลุงแซม
เป็นที่น่าสังเกตว่า รายงานดังกล่าวของดีโอเจ ถูกเผยแพร่ออกมาในจังหวะเวลาเดียวกับที่สังคมอเมริกันกำลังเผชิญ “วิกฤตศรัทธาครั้งเลวร้าย” ของประชาชนที่มีต่อสถาบันตำรวจในประเทศ โดยเฉพาะตำรวจผิวขาว หลังเกิดเหตุตำรวจผิวขาวใช้ความรุนแรงในรูปแบบต่างๆ จนมีพลเรือนผิวดำเสียชีวิตไปหลายราย ต่อเนื่องกันในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา