เอพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - สำนักงานองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในอิรักเผยข้อมูลล่าสุดในวันเสาร์ (1 ส.ค.) โดยระบุ มีผู้เสียชีวิตจากเหตุรุนแรงในอิรักในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาอย่างน้อย 1,332 ราย
รายงานของยูเอ็น ระบุว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตเพราะเหตุรุนแรงทั่วอิรักดังกล่าว มีพลเรือนอิรักรวมอยู่ด้วยอย่างน้อย 844 ราย ขณะที่มีสมาชิกกองกำลังความมั่นคงอิรักและกลุ่มติดอาวุธฝ่ายที่ให้การสนับสนุนรัฐบาลแบกแดด ในการต่อสู้กับกลุ่มนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) เสียชีวิตอย่างน้อย 488 ราย
ในส่วนของผู้ได้รับบาดเจ็บนั้น รายงานล่าสุดของสหประชาชาติ ระบุว่า ยอดผู้บาดเจ็บจากเหตุรุนแรงในอิรักตลอดเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งสิ้น 2,108 ราย
รายงานระบุว่า กรุงแบกแดด เมืองหลวงของอิรักถือเป็นพื้นที่ที่ได้ชื่อว่า “นองเลือดที่สุด” จากการที่มียอดผู้เสียชีวิตเพราะเหตุรุนแรงในเดือนที่แล้ว สูงถึง 335 ราย
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนมิถุนายน สหประชาชาติเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุรุนแรงในอิรักมีอย่างน้อย 1,466 ราย ส่วนจำนวนผู้บาดเจ็บมีทั้งสิ้น 1,687 ราย
อย่างไรก็ดี ข้อมูลที่รวบรวมและเผยแพร่โดยยูเอ็นนั้น ไม่นับรวมถึงยอดความสูญเสียที่เกิดขึ้นในพื้นที่ที่ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของกลุ่มรัฐอิสลาม ซึ่งในเวลานี้สามารถยึดครองพื้นที่ได้ราว 1 ใน 3 ของอิรักและชาติเพื่อนบ้านอย่างซีเรีย
ขณะเดียวกัน ข้อมูลของยูเอ็น ยังมิได้นับรวมผู้ที่เสียชีวิต จากผลกระทบทางอ้อม อื่น ๆ ที่เป็นผลพวงจากเหตุรุนแรงอีกทอดหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นผู้เสียชีวิตจากการอดอยากขาดแคลนน้ำและอาหาร ตลอดจน การเสียชีวิตเพราะอาการเจ็บป่วยอื่น ๆ ระหว่างที่หนีภัยการสู้รบ
ทั้งนี้ เหตุรุนแรงในอิรักได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมาก นับตั้งแต่ที่กลุ่มนักรบไอเอสเริ่มเปิดฉากขยายอิทธิพลและสร้างอาณาเขตของตนในพื้นที่จังหวัดอันบาร์ทางตะวันตกของอิรักเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลอิรักซึ่งมีโลกตะวันตกหนุนหลัง กลับประสบความยากลำบากในการเข้ายึดคืนพื้นที่ต่าง ๆ จากกลุ่มนักรบอิสลามิสต์สุดโต่งกลุ่มนี้