รอยเตอร์/เอเอฟพี - เครื่องบินรบตุรกีปูพรมถล่มเป้าหมายรัฐอิสลาม(ไอเอส) เป็นครั้งแรกเมื่อวันศุกร์(24ก.ค.) ด้วยประธานาธิบดีตอยยิบ เออร์โดกัน ประกาศกร้าวใช้มาตรการเด็ดขาดมากขึ้นต่อทั้งพวกญิฮัดกลุ่มนี้และนักรบเคิร์ดในแผ่นดินเติร์ก หลังจากก่อนหน้านี้ไม่สู้เต็มใจมีบทบาทอย่างเต็มรูปแบบในปฏิบัติการของพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯเท่าใดนัก
การโจมตีทางอากาศครั้งนี้ ซึ่งมีขึ้นตามหลังการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างนายเออร์โดกันและประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯเมื่อวันพุธ(22ก.ค.) เกิดขึ้นพร้อมๆกับปฏิบัติการจู่โจมทั่วประเทศของตำรวจตุรกี เข้าควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยนักรบเกือบ 300 คน ในนั้นมีทั้งพวกต้องสงสัยรัฐอิสลามและนักรบเคิร์ด
สื่อมวลชนรายงานว่าเฮลิคอปเตอร์และเจ้าหน้าที่มากกว่า 5,000 นาย ในนั้นรวมถึงกองกำลังพิเศษ ถูกระดมเข้าร่วมปฏิบัติการนี้ โดยที่ตำรวจต่อต้านก่อการร้ายได้เข้าจู่โจมที่ตั้งเป้าหมายต่างๆทั่วประเทศ โดยเฉพาะในอิสตันบูล ก็มากกว่า 100 แห่งแล้ว
เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสรายหนึ่งบอกกับรอยเตอร์ว่า "ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเช้าวันนี้และปฏิบัติการต่อต้านกลุ่มก่อการร้ายภายในประเทศคือมาตรการป้องกันไว้ก่อนต่อความเป็นไปได้ที่อาจเกิดเหตุโจมตีตุรกีจากทั้งภายในและนอกประเทศ"
ตุรกีมีท่าทีอึกอักมานานในการเข้าร่วมเป็นหนึ่งในพันธมิตรนานาชาติต่อต้านไอเอสที่นำโดยสหรัฐฯ โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นต่อการโค่นล้มประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดแห่งซีเรียและบอกว่ากองกำลังเคิร์ดซีเรียก็เป็นภัยคุกคามความมั่นคงใหญ่หลวงเช่นกัน
อย่างไรก็ตามการโจมตีในวันศุกร์(24ก.ค.) ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าดำเนินการจากน่านฟ้าของตุรกี คือการส่งสัญญาณว่าอังการาจะปราบปรามพวกรัฐอิสลามทั่วแนวชายแดนติดกับซีเรีย ขณะเดียวกันก็จะเดินหน้าสกัดพรรคแรงงานเคอร์ดิสถานซึ่งพวกเขามองว่าเป็นองค์กรแบ่งแยกดินแดนในประเทศ "ระหว่างการคุยโทรศัพท์กับโอบามา เราย้ำถึงความตั้งใจต่อสู้กับองค์กรแบ่งแยกดินแดนและรัฐอิสลาม" เออร์โดแกนบอกกับผู้สื่อข่าว "เราลงมือก้าวย่างแรกแล้วเมื่อคืนนี้"
คำสั่งดำเนินการของเออร์โดกัน มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเจ้าหน้าที่ในวอชิงตันเผยว่าตุรกียินยอมให้เครื่องบินรบของสหรัฐฯใช้ฐานทัพแห่งหนึ่งตามแนวชายแดนซีเรีย เป็นฐานปฏิบติการโจมตีทางอากาศ หลังเคยปฏิเสธก่อนหน้านี้
ตุรกีต้องเผชิญกับความไม่มั่นคงเพิ่มมากขึ้นตามแนวชายแดนติดกับซีเรียซึ่งมีระยะทางราว 900 กิโลเมตร โดยเมื่อวันพฤหัสบดี(23ก.ค.) มีเหตุยิงตอบโต้กันระหว่างกองทัพกับพวกรัฐอิสลาม ซึ่งควบคุมพื้นที่อันกว้างขวางของซีเรียและอิรัก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นนักรบ 1 คนและทหาร 1 นาย
นอกจากนี้แล้วพวกเขายังต้องเผชิญกับระลอกคลื่นความรุนแรงทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีชาวเคิร์ดพักอาศัยจำนวนมาก ตามหลังเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในเมืองซูรุคของตุรกี คร่าชีวิตชาวบ้าน 32 ศพเมื่อวันจันทร์ (20 ก.ค.) ซึ่งกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของไอเอส
อย่างไรก็ตามพวกนักวิจารณ์มองว่านายเออร์โดแกน มีความกังวลต่อการควบคุมเหล่านักรบเคิร์ดซีเรียมากกว่า ด้วยวิตกว่าหากพวกเขาได้รับชัยชนะเหนือไอเอสในสงครามกลางเมืองซีเรีย ก็อาจเป็นการกระตุ้นความกล้าหาญแก่ชนกลุ่มน้อยเคิร์ดในตุรกีที่มีอยู่กว่า 14 ล้านคน ที่อาจเอาอย่างลุกฮือขึ้นมาบ้าง
เครื่องบินรบ 3 ลำเทคออกจากฐานทัพในดิยาร์บากีร์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี ในตอนเช้าวันศุกร์(24ก.ค.) และถล่มฐานที่มั่น 2 จุดและอีกหนึ่งจุดรวมพลของไอเอส ก่อนบินกลับ "เราไม่สามารถพูดว่ามันคือการเริ่มต้นของปฏิบัติการทางทหาร แต่แน่นอนนโยบายคือจะมีความกระตือรือร้นและมีส่วนเกี่ยวข้องมากกว่าเดิม" เจ้าหน้าที่รัฐบาลตุรกีบอกกับรอยเตอร์
นายรามี อับเดล ราห์มาน ผู้อำนวยการศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียซึ่งมีฐานที่กรุงลอนดอน เผยว่าเครื่องบินรบของตุรกีได้ฆ่านักรบของกลุ่มไอเอสไป 9 ศพ ในการโจมตีที่มั่นต่างๆของพวกญิฮัดในซีเรีย "เครื่องบินรบได้โจมตีที่มั่นต่างๆของพวกไอเอสในจังหวัดอเลปโป ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ 3 เที่ยว สังหารนักรบไป 9 คนและเสียชีวิต 12 ราย
ขณะเดียวกันแหล่งข่าวจากสำนักนายกรัฐมนตรีอาห์เมด ดาวูโตกลู ระบุในวันศุกร์(24ก.ค.) ว่ามีสมาชิกกลุ่มไอเอส 5 คนเสียชีวิตท่ามกลางเหตุปะทะกับทหารตุรกี