เอเอฟพี - มิคาอิล กอร์บาชอฟ อดีตประธานาธิบดีสหภาพโซเวียต ออกมาเรียกร้องวานนี้ (21 ก.ค.) ให้รัฐบาลรัสเซียและเยอรมนีเร่ง “ฟื้นความเชื่อมั่น” หลังความสัมพันธ์ระหว่างประเทศย่ำแย่ลงทุกขณะเพราะวิกฤตการณ์ในยูเครน
อดีตผู้นำวัยชรายอมรับว่า ตนรู้สึกไม่สบายใจที่เห็นความบาดหมางระหว่างรัสเซียกับโลกตะวันตก ทั้งที่เมื่อไม่ถึง 30 ปีก่อน อดีตประธานาธิบดีโรนัลด์ รีแกน แห่งสหรัฐฯ เป็นผู้ขอให้ กอร์บาชอฟ “ทลายกำแพง” ที่กั้นระหว่างโลกตะวันออกและตะวันตกเสีย
“ที่สร้างความหนักใจกับเรามากที่สุดในวันนี้ คือความสัมพันธ์ระหว่างเยอรมนีและรัสเซีย” กอร์บาชอฟ วัย 84 ปี ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวทาสส์ของรัสเซีย
กอร์บาชอฟซึ่งมีบทบาทสำคัญในการทลายกำแพงเบอร์ลินเมื่อปี 1989 ชี้ว่า หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง “ไม่มีใครเชื่อว่ารัสเซียกับเยอรมนีจะร่วมมือกันได้ แต่เราทั้ง 2 ชาติก็ทำสำเร็จมาแล้ว”
เขาเรียกร้องให้ผู้นำมอสโกและเบอร์ลิน “แสดงความเฉียบแหลมและความรับผิดชอบ เพื่อฟื้นคืนความเชื่อมั่น และการเจรจาพูดคุยกัน” พร้อมเตือนว่า “ไม่มีเวลาจะให้เสียอีกต่อไป”
คำเตือนจากกอร์บาชอฟมีขึ้นในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างแดนหมีขาวกับโลกตะวันตกเสื่อมทรามถึงขีดสุด นับตั้งแต่สหภาพโซเวียตล่มสลายลงในปี 1991
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ผนึกกำลังกับสหภาพยุโรปตอบโต้รัสเซียด้วยมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ หลังคาบสมุทรไครเมียซึ่งเป็นเขตปกครองตนเองภายใต้อาณัติของยูเครนถูกรัสเซียผนวกกลับไปเป็นของตนเมื่อปี 2014 จนนำมาสู่สงครามแบ่งแยกดินแดนในยูเครนตะวันออกที่คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 6,500 คนในเวลาเพียงปีเดียว
ด้านรัสเซียเองก็โต้กลับด้วยการสั่งแบนสินค้านำเข้าจากยุโรปหลายรายการ
นายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี ยังคงยืนหยัดสนับสนุนโอบามาในการคว่ำบาตรมอสโก