เอเอฟพี - มีการเปิดเผยผลสำรวจครั้งใหม่ ปรากฏว่า กระแสสนับสนุนของชาวญี่ปุ่นที่มีต่อรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ได้ตกต่ำลงมามากที่สุดเท่าที่เคยมีมา หลังจากที่มีการผลักดันกฎหมายด้านกลาโหมให้ผ่านสภาผู้แทนฯ แม้ว่าสาธารณชนจะไม่พอใจก็ตาม
จากผลสำรวจที่ถูกตีพิมพ์ในวันอาทิตย์ (19 ก.ค.) โดยหนังสือพิมพ์ ไมนิชิ ปรากฏว่า สาธารณชนที่สนับสนุนและเห็นพ้องกับรัฐบาลลดลงมาอยู่ที่ 35 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดนับตั้งแต่อาเบะก้าวขึ้นครองอำนาจในช่วงปลายปี 2012 โดยลดลงมา 7 จุด จากเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ขณะเดียวกัน ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลได้เพิ่มขึ้น 8 จุด ไปอยู่ที่ 51 เปอร์เซ็นต์
เมื่อวันพฤหัสบดี สภาล่างของญี่ปุ่นได้ผ่านกฎหมายความมั่นคง ซึ่งกำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ อันจะทำให้เกิดการขยายบทบาทของกองกำลังป้องกันตนเอง ทำให้ทหารญี่ปุ่นออกไปสู้รบในต่างแดนได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
หนึ่งวันก่อนการลงคะแนนเสียงของสภาล่าง มีผู้คนประมาณ 60,000 คน ออกมาเดินขบวนบริเวณด้านนอกรัฐสภา แล้วมีการตะลุมบอนกับตำรวจ ทำให้ชาย 2 คน ที่มีอายุประมาณ 60 กว่า ๆ ถูกจับกุมเพราะต้องสงสัยว่าทำร้ายเจ้าหน้าที่
“เสียงวิจารณ์จากสาธารณชนนั้นดังมากขึ้นเรื่อย ๆ ต่อกฎหมายด้านกลาโหมฉบับใหม่นี้ วิธีที่ฝ่ายบริหารและพรรครัฐบาลใช้ในการรับมือกับประเด็นนี้ ได้ฉุดให้คะแนนนิยมตกต่ำลง” หนังสือพิมพ์ ไมนิชิ ระบุ
ก่อนหน้านี้ 1 วัน ทางสำนักข่าวเกียวโดนิวส์ ก็เผยผลสำรวจของตนเอง ที่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลอาเบะมีคะแนนสนับสนุนตกต่ำลง จากเดิม 47.4 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเดือนที่แล้ว เหลือแค่ 37.7 เปอร์เซ็นต์ ส่วนฝั่งที่ไม่สนับสนุนนั้นได้เพิ่มขึ้นเป็น 51.6 เปอร์เซ็นต์ จากเดิม 43 เปอร์เซ็นต์ในเดือนที่แล้ว
ทั้งสองโพลได้ทำการสำรวจประชาชนราว 1,000 คน ผ่านทางโทรศัพท์เมื่อวันศุกร์และวันเสาร์ที่ผ่านมา