เอเอฟพี – สื่อรายงานว่า ประชาชนในเมืองเตรวิโซทางภาคเหนือของอิตาลีพากันจุดไฟเผาที่นอนของอพาร์ทเมนท์เปล่าแห่งหนึ่งในวันนี้ (17) เพื่อขัดขวางไม่ให้รัฐบาลท้องถิ่นให้ที่พักพิงแก่ผู้อพยพร้อยกว่าคน
ทางการมีแผนที่จะจัดหาที่พักพิงให้กับผู้อพยพ 101 คนในอพาร์ทเมนท์เปล่าในหมู่บ้านควินโต แต่ชาวบ้านที่ไม่พอใจหลายคนบุกเข้าไปยังหนึ่งในอพาร์ทเมนท์เหล่านั้นและรื้อยกเตียงผ้าใบ , ฟูก และโทรทัศน์ที่เตรียมไว้ให้สำหรับผู้เข้ามาอยู่ใหม่ออกมา และจุดไฟเผาสิ่งของเหล่านี้ข้างนอก
หลังจากนั้นผู้ประท้วงเหล่านี้ก็ปลักหลักตั้งเต้นท์ โดยหนังสือพิมพ์ Corriere della รายางานโดยอ้างถึงคำพูดของพวกเขาที่ระบุว่า “เราจะไม่กลับบ้านจนกว่าพวกเขาจะออกไป นี่คือรุกรานกันชัดๆ”
ปัจจุบันอิตาลีรองรับผู้ลี้ภัยกว่า 80,000 คนซึ่งข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมาเพื่อหลบหนีสงคราม การถูกดำเนินคดีหรือความยากจนในตะวันออกกลางและแอฟริกา ผู้อพยพเหล่านี้ประกอบด้วยชาวแอฟริกาจำนวนมากโดยเฉพาะชาวเอริเทรีย ตลอดจนชาวซีเรีย
ลูกา ไซอา นายกรัฐมนตรีแคว้นเวเนโตของอิตาลีและสมาชิกของพรรคนอร์ทเทิร์นลีคซึ่งต่อต้านผู้อพยพ บอกกับสถานีโทศน์อิตาลีว่า เขาเห็นด้วยกับกลุ่มผู้ประท้วง และแสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับกระแส ‘แอฟริกานุวัฒน์” ในแคว้นของเขาเอง
แต่ มาเรีย ออกัสตา มาร์โรซู นายกเทศมนตรีเมืองเตรวิโซ กล่าวว่า “พวกเขามาอยู่ เพราะว่าพวกเขาไม่มีทางเลือก”
กำแพงของอาคารแห่งหนึ่งในหมู่บ้านควินโตถูกฉีดสเปรย์สีแดงเป็นข้อความตัวใหญ่ว่า “นายกเทศมนตรีมาร์โรซูเอาพวกเขาไปอยู่บ้านสิ”
การไหลทะลักของผู้อพยพทำให้ทรัพยากรของอิตาลีถูกกระจายออกไปอย่างมาก กระทรวงมหาดไทยต้องการแบ่งภาระนี้ไปทั่วทุกภูมิภาค แต่ในบางกรณีรัฐบาลท้องถิ่นไม่ได้มีสถานที่เพียงพอที่จะรองรับพวกเขาโดยเฉพาะในภาคเหนือ
ลอมบารี แคว้นที่ร่ำรวยที่สุดของอิตาลี ขณะนี้รองรับผู้อพยพอยู่ 9 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่แคว้นเวเนโตรองรับ 4 เปอร์เซ็นต์ และแคว้นลิกูเรียรองรับ 2 เปอร์เซ็นต์ ส่วนแคว้นซีซีเลียทางภาคใต้ให้ที่พักพิงกับผู้อพยพ 22 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้อ้างจากตัวเลขของทางการที่เผยแพร่เมื่อเดือนมิถุนายน