เอเอฟพี – กองกำลังที่ภักดีต่อประธานาธิบดีเยเมนสามารถยึดสนามบินนานาชาติในเมืองเอเดนซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศกลับคืนมาได้เมื่อวานนี้(14 ก.ค.) โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทัพซาอุดีอาระเบีย ซึ่งส่งเครื่องบินเข้าไปถล่มฐานที่มั่นของพวกกบฏฮูตีนิกายชีอะห์ตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา
การสู้รบที่เมืองท่าเอเดนยังทวีความรุนแรง แม้องค์การสหประชาชาติจะประกาศข้อตกลงหยุดยิง 6 วันจนถึงสิ้นเดือนรอมฎอน เพื่อเปิดทางส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมก็ตาม
เลขาธิการสหประชาชาติ บัน คี มุน แสดงความ “ผิดหวังอย่างยิ่ง” ที่สัญญาหยุดยิงถูกละเมิด แต่ยังเชื่อว่าการสู้รบจะยุติลงในที่สุด
“เรายังไม่สิ้นหวังเสียทีเดียว และกำลังหารือว่าจะทำอย่างไรต่อไป” สเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกของ บัน กล่าว
การถอยร่นของฝ่ายกบฏมีขึ้น หลังจากอิหร่านซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ของกบฏฮูตีบรรลุข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์ฉบับสมบูรณ์กับมหาอำนาจ P5+1 เมื่อวานนี้ (14)
หลังจากมีการลงนามข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านเพียงไม่กี่ชั่วโมง ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ก็ได้ต่อโทรศัพท์ถึงสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานแห่งซาอุดีอาระเบียเพื่อแจ้งความคืบหน้า และหารือแนวทางที่จะยุติความขัดแย้งในเยเมนโดยด่วน หลังการสู้รบที่ปะทุขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมได้คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 3,200 คน
ทำเนียบขาวระบุว่า ผู้นำทั้งสอง “ต้องการให้สงครามเยเมนยุติลงโดยเร็ว และได้หารือกลไกที่จะจัดส่งความช่วยเหลือให้ถึงมือชาวเยเมนทุกกลุ่ม”
การแผ่อิทธิพลของกบฏฮูตีซึ่งเชื่อกันว่ามีอิหร่านคอยหนุนหลัง ทำให้ซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นผู้นำรัฐอิสลามสุหนี่และมีพรมแดนติดกับเยเมนด้านทิศใต้รู้สึกว่าตนกำลังถูกคุกคาม จึงร่วมมือกับพันธมิตรอาหรับส่งเครื่องบินเข้าไปปฏิบัติการโจมตีทางอากาศหวังสกัดการรุกคืบของพวกกบฏ ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา
ก่อนหน้านี้ ฝ่ายซาอุฯ ยืนยันว่า เรือรบฝ่ายตนไม่ได้ยิงโจมตีพวกกบฏ ซึ่งล่าถอยออกมาจากเมืองเอเดนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่บีบให้ประธานาธิบดี อับดุรรับบูห์ มันซูร์ ฮาดี หลบหนีออกนอกประเทศไปได้
พลจัตวา อาเหม็ด อัล-อัสซิรี โฆษกกองกำลังพันธมิตรซาอุฯ เตือนให้ฝ่ายของ ฮาดี อย่าเพิ่งหลงระเริงกับการยึดสนามบินคืนได้
“เรายังไม่อยากประกาศชัยชนะ เพราะมันเป็นแค่ความสำเร็จก้าวหนึ่ง ไม่มีอะไรมากกว่านั้น... พวกเขายังต้องใช้ความพยายามอีกมากในการรักษาฐานที่มั่นในเมืองเอเดนเอาไว้ให้ได้”
ด้าน โมฮาเหม็ด มาเร็ม หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลฮาดี ระบุว่า ประธานาธิบดีเป็นคนออกคำสั่งควบคุม “ปฏิบัติการลูกศรทองเพื่อปลดปล่อยเมืองเอเดน” ด้วยตนเอง
สนามบินเอเดนถูกกบฏฮูตียึดไว้ตั้งแต่กองพลน้อยยานเกราะที่ 39 ของเยเมนตัดสินใจทิ้งเมืองเมื่อวันที่ 25 มีนาคม หลังจากนั้นพวกกบฏและพันธมิตรยังได้เข้าไปยึดทำเนียบประธานาธิบดี และท่าเรือสินค้าหลักของเมืองด้วย
แหล่งข่าวทางทหารเปิดเผยว่า นักรบที่ภักดีต่อ ฮาดี ได้รับการสนับสนุนภาคพื้นดินจากทหารเยเมนที่ผ่านการฝึกในซาอุดีอาระเบีย ตลอดจนอาวุธทันสมัยที่พันธมิตรซาอุฯ ส่งมาช่วย
“ทหารที่เพิ่งผ่านการฝึกยุทธวิธีในซาอุฯ ได้ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับขบวนการประชาชนต่อต้านกบฏฮูตี (Popular Resistance)” แหล่งข่าวระบุ โดยอ้างถึงกลุ่มติดอาวุธท้องถิ่นทางภาคใต้ของเยเมนที่เป็นกำลังสำคัญของฝ่าย ฮาดี ในเวลานี้
นายพลอัสซิรี ชี้ว่า พันธมิตรซาอุฯ สนับสนุนกองกำลังท้องถิ่นทั้งในด้านการฝึกยุทธวิธี อาวุธ รวมถึงข้อมูลที่จำเป็นอยู่แล้ว “เป็นปกติ”
กบฏฮูตีบุกยึดกรุงซานาได้โดยละม่อมเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว และกำลังขยายอิทธิพลไปยังภูมิภาคอื่นๆ โดยมีทหารที่ภักดีต่ออดีตประธานาธิบดี อาลี อับดุลเลาะห์ ซาเลห์ แห่งเยเมนคอยช่วยเหลือ