เดอะการ์เดียน - ชาวกรุงลอนดอนต้องรับมือกับความยากลำบากในการเดินทางช่วงเช้าวันพฤหัสบดี (9 ก.ค.) อันเนื่องมาจากการหยุดงานประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 13 ปีของพนักงานรถไฟใต้ดิน
การหยุดงานประท้วง 24 ชั่วโมง ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 18.30 น.ของวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้เครือข่ายรถไฟใต้ดินทั้งหมดต้องหยุดให้บริการเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2002
มีรายงานว่า บริการรถรางและรถบัสโดยสารบางคันมีคนเต็มตั้งแต่ก่อน 06.00 น.ในตอนเช้า ขณะที่รถแท็กซี่จำนวนมากถูกจองไว้ตั้งแต่คืนวันพุธ นอกจากนี้ยังมีไม่น้อยที่ต้องเดินไปทำงาน
ผู้เดินทางรายหนึ่งบอกว่า ตำรวจได้ถูกเรียกให้มายังบริเวณป้ายหยุดรถประจำทาง เนื่องจากรถบัสโดยสารไม่ยอมออกวิ่ง เพราะมีคนขึ้นมาจนแน่นเกินไป
ขณะที่หญิงอีกรายหนึ่งบอกว่า เธอต้องออกจากบ้านเร็วกว่าเคยถึง 2 ชั่วโมง แล้วก็ต้องนั่งรถโดยสาร 6 คัน กับรถไฟบนดินอีกขบวนหนึ่งถึงจะไปทำงานได้ทันเวลา ภาพของความวุ่นวายบริเวณด้านนอกสถานีรถไฟใต้ดินหลายแห่งนั้นมีให้เห็นกันตั้งแต่เมื่อคืนวันพุธ
จากข้อมูลของระบบขนส่งมวลชน “ลอนดอน อันเดอร์กราวนด์” ระบุว่า รถไฟใต้ดินในกรุงลอนดอนนั้นต้องรับมือกับผู้เดินทางราว 4 ล้านคนต่อวัน โดยในช่วงพีกจะมีรถไฟมากกว่า 535 ขบวนออกให้บริการ
การหยุดงานประท้วงโดย 4 สหภาพแรงงานซึ่งเป็นตัวแทนของพนักงานเกือบ 2 หมื่นคน โดยรวมถึงบรรดาคนขับรถไฟด้วย เกิดจากความขัดแย้งที่มีมาต่อเนื่องในเรื่องของค่าแรงและกะการทำงานในตอนกลางคืนช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งมีแผนจะเริ่มใช้กันในเดือนกันยายนนี้ โดยทางสหภาพฯ บอกว่าการสไตรก์จะมีอีกหลังหน้าร้อน เว้นเสียแต่ว่าทาง “ลอนดอน อันเดอร์กราวนด์” จะปรับปรุงข้อเสนอใหม่ให้กับพวกเขา
การเจรจาพูดคุยกันเกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำวันอังคารที่ผ่านมา ระหว่างเหล่าผู้จัดการรถไฟ กับทางสหภาพฯ โดยทั้งคู่ต่างประณามกลยุทธ์ในการเจรจาของอีกฝ่าย