เอเอฟพี - องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุในวันนี้ (9 ก.ค.) ว่า สงครามกลางเมืองในซีเรียทำให้ประชาชนต้องระหกระเหเร่ร่อนกลายเป็นผู้ลี้ภัยในภูมิภาคแล้วกว่า 4 ล้านคน และในจำนวนนี้ 1 ล้านคนมาจากเพียงเมื่อช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา
อันโตนิโอ กูเตอร์เรส ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยของยูเอ็น (UNHCR) ระบุว่า “นี่เป็นจำนวนผู้ลี้ภัยจากความขัดแย้งเพียงแห่งเดียวที่มากที่สุดในยุคๆ หนึ่ง”
“นี่เป็นประชากรที่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากโลก แต่พวกเขากลับกำลังใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายและอัตคัดขัดสนมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ” เขากล่าวเตือน
สำนักงานผู้ลี้ภัยของยูเอ็น ระบุว่า การไหลทะลักของผู้ลี้ภัยเข้าสู่ตุรกีระลอกใหม่ทำให้จำนวนผู้ลี้ภัยชาวซีเรียในประเทศข้างเคียงเพิ่มขึ้นเป็นทั้งสิ้น 4,013,000 ราย
เพียงเมื่อ 10 เดือนที่แล้วในช่วงปลายเดือนสิงหาคมปี 2014 จำนวนผู้ลี้ภัยที่ลงทะเบียนยังอยู่ที่ 3 ล้านคนเท่านั้น UNHCR ระบุว่า หากชาวซีเรียยังคงลี้ภัยออกจากประเทศในอัตราเท่าเดิมนี้ พวกเขาคาดว่าจำนวนผู้ลี้ภัยชาวซีเรียจะอยู่ที่ 4.27 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้
จำนวนผู้ลี้ภัยดังกล่าวมากกว่าจำนวนผู้ลี้ภัยที่สูงที่สุดที่ UNHCR เคยรับมือจากความขัดแย้งเพียงแห่งเดียวในรอบเกือบ 25 ปี นับตั้งแต่ที่ UNHCR ให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวอัฟกัน 4.6 ล้านคนในปี 1992 โฆษกหญิงบอกกับเอเอฟพี
มีคนกว่า 230,000 คนถูกสังหารในซีเรีย นับตั้งแต่ที่การประท้วงต่อต้านรัฐบาลปะทุขึ้นในเดือนมีนาคมปี 2011 และกลายเป็นสงครามกลางเมืองระหว่างกองกำลังนิยมรัฐบาลกับกลุ่มกบฏและพวกกลุ่มนักรบญิฮาด
นอกจากนั้นยังมีประชาชนลี้ภัยออกจากซีเรียแล้วกว่า 4 ล้านคน และ 7.6 ล้านคนกลายเป็นผู้พลัดถิ่นฐานภายในประเทศ “พวกเขาจำนวนมากอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ยากลำบากและในพื้นที่ที่ยากต่อการเข้าถึง” UNHCR ระบุ
ตัวเลขของ UNHCR เผยว่า ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียคิดเป็น 1 ใน 3 ของผู้ลี้ภัย 137,000 คนที่นั่งเรือทรุดโทรมข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปยังยุโรปในช่วงครึ่งแรกของปี 2015 โดยผ่านเครือข่ายขบวนการค้ามนุษย์
