สเปนเปิดฉากเทศกาลซานเฟอร์มินด้วยปาร์ตี้สาดไวน์ เตรียมวิ่งวัวกระทิงอังคารนี้

เอเอฟพี - ฝูงชนผู้ชื่นชอบการสังสรรค์เฮฮาจำนวนมากในชุดโทนสีขาว-แดง ต่างพากันใช้ไวน์ราดเข้าใส่กันและกันในวันจันทร์ (6 ก.ค.) บริเวณจัตุรัสของเมืองปัมโปลนาที่เนืองแน่นไปด้วยผู้คน เพื่อเป็นการเริ่มต้นเทศกาลซานเฟอร์มินของสเปน ที่มีชื่อเสียงจากกิจกรรมวิ่งวัวกระทิง

งานปาร์ตี้ตามท้องถนนเป็นระยะเวลา 9 วันได้เริ่มขึ้นเมื่อตอนเที่ยงวัน ท่ามกลางเสียงโห่ร้อง “วีวา ซาน เฟอร์มิน” ของผู้คนจำนวนมาก หลังการจุดดอกไม้ไฟเป็นสัญญาณเริ่มงานที่รู้จักกันในท้องถิ่นว่า “ชูปินาโซ”

ฝูงชนจำนวนมากในชุดตามประเพณีที่เป็นสีขาว ตกแต่งด้วยผ้าพันคอสีแดง พากันดื่มไวน์แดงจากที่เก็บซึ่งทำจากหนังสัตว์และรัดไว้ที่เอว รวมถึงใช้ไวน์เหล่านั้นราดรดเข้าใส่กัน มีบางรายที่อยู่ตามระเบียงได้เทไวน์ลงมาใส่ผู้คนข้างล่างด้วย

โทรทัศน์จอยักษ์กลางแจ้งถูกนำมาติดตั้งไว้ตามจุดต่างๆ ของเมืองเป็นจำนวน 5 จุด พร้อมทั้งถ่ายทอดสดงานเทศกาลนี้

ปัมโปลนา ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของพื้นที่ปลูกไวน์ Rioja ซึ่งไวน์นั้นมีบทบาทที่สำคัญในเทศกาลนี้นานนับศตวรรษแล้ว โดยใช้เฉลิมฉลองเพื่อให้เกียรติแก่นักบุญเฟอร์มิน (เซนต์ เฟอร์มิน ที่กลายมาเป็นชื่อเทศกาล) ผู้ซึ่งคอยอุปถัมภ์ค้ำชูและเป็นบิชอปคนแรกของเมืองนี้

งานเทศกาลนี้ที่คงอยู่ชั่วนิรันดร์ในบทประพันธ์เมื่อปี 1926 “เดอะ ซัน อัลโซ ไรเซส” ของเออร์เนส เฮมมิงเวย์ จะพาย้อนกลับไปสัมผัสห้วงเวลาในยุคกลาง ที่มีขบวนพิธีทางศาสนา การเต้นร้องรำทำเพลงแบบพื้นบ้าน คอนเสิร์ตและการเมาหยำเปต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืน

งานเทศกาลที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมนี้ จะมีตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคมไปจนถึงวันที่ 14 กรกฎาคมของทุกปี

ไฮไลต์ที่สำคัญมากที่สุดของเทศกาลนี้ก็คือกิจกรรมการวิ่งวัวกระทิง ซึ่งจะเริ่มในเช้าวันที่ 7 กรกฎาคม โดยที่ผู้คนนับร้อยจะวิ่งไปพร้อมกับวัวกระทิงขนาดครึ่งตันจำนวน 6 ตัว ในถนนแคบๆ เป็นระยะทาง 846.6 เมตร ตามเส้นทางที่นำไปสู่สังเวียน ซึ่งกระทิงเหล่านั้นจะต้องจบชีวิตตัวเองในการสู้วัวกระทิงช่วงบ่าย

บรรดาผู้ที่หาญกล้าไปวิ่งร่วมกับกระทิงจะพยายามเข้าใกล้เพื่อสัมผัสกับสัตว์ที่ดุร้ายเหล่านี้ โดยที่จะต้องระวังไม่ให้โดนขวิดไส้ไหล

การวิ่งรอบแรกของแต่ละปี ซึ่งมักจะมีผู้คนเข้าร่วมวิ่งมากที่สุด ในปีนี้จะมีขึ้นในวันอังคาร (7 ก.ค.) โดยเฉลี่ยแล้วการวิ่งวัวกระทิงจะใช้เวลาไม่เกิน 4 นาทีโดยประมาณ

บรรดาผู้ที่หาญกล้าท้าความตายหลายสิบคนถูกส่งเข้าโรงพยาบาลเป็นประจำทุกปี ส่วนใหญ่ไม่ได้โดนกระทิงใช้เขาขวิด แต่มักเจ็บเพราะล้มกันเองหรือไม่ก็ถูกเบียดกระแทกโดยกระทิงเหล่านั้น

นับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกสถิติในปี 1911 มีผู้เสียชีวิตจากการวิ่งวัวกระทิงไปแล้ว 15 ราย การตายครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในปี 2009 ตอนนั้นชาวสเปนวัย 27 ปีถูกกระทิงขวิดเข้าที่คอ หัวใจและปอด

จากข้อมูลของศาลาว่าการเมืองปัมโปลนา เมื่อปีที่แล้วมีคนมาร่วมการวิ่งวัวกระทิง 8 วันของเทศกาลนี้ราว 17,000 คน โดยที่มีประมาณ 56 เปอร์เซ็นต์ มาจากต่างประเทศ

สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อังกฤษ คือชาติที่มีนักท่องเที่ยวมาร่วมวิ่งมากที่สุด โดยที่ผู้เข้าร่วมการวิ่งวัวกระทิงนั้นส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย

สมาคมผู้ประกอบธุรกิจที่พักในแคว้นนาบาร์รา ได้คาดการณ์ว่า การพักอาศัยในโรงแรมที่อยู่ใจกลางปัลโปลนา น่าจะมีตัวเลขเฉลี่ยอยู่ที่ 85 เปอร์เซ็นต์ ตลอดช่วงเทศกาลนี้ ซึ่งเป็นระดับเดียวกับปีที่แล้ว

“มันเป็นเทศกาลที่มีเอกลักษณ์” จอร์จ เฟอร์นันเดซ หัวหน้าฝ่ายข้อมูลของสมาคมฯ บอกเอเอฟพี พร้อมทั้งระบุเพิ่มเติมด้วยว่า จะมีบรรดาคอปาร์ตี้จากทั่วทุกสารทิศมาที่นี่ ทั้งจากอเมริกาไปจนถึงออสเตรเลีย

เจ้าหน้าที่เมืองปัมโปลนาปฏิเสธที่จะประเมินตัวเลขจำนวนผู้มาเยือนเมืองที่มีประชากร 3 แสนรายในปีนี้ แต่พวกเขาได้บอกว่า มีคนเกือบ 1.3 ล้านราย ที่เข้ามามีส่วนร่วมในปี 2014 จากทั้งหมดกว่า 400 กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการวิ่งวัวกระทิง

ฝ่ายบริหารของแคว้นนาบาร์รา ระบุว่า ตำรวจ 3,350 นายจะออกตรวจตราตามท้องถนน เพื่อให้กิจกรรมเหล่านี้มีความปลอดภัยมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มนักเคลื่อนไหวที่ออกมาปกป้องสิทธิสัตว์ประมาณ 100 คน พากันเปลือยกายแล้วใช้เลือดปลอมชะโลมตามตัว ชุมนุมกันอยู่บริเวณด้านนอกสังเวียนสู้วัวกระทิงในเมืองปัมโปลนา เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยพากันชูป้ายที่เขียนในหลายภาษาว่า "ท้องถนนในปัมโปลนานั้นแปดเปื้อนไปด้วยเลือดวัวกระทิง"