รอยเตอร์ – รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศมอบความช่วยเหลืออย่างเป็นทางการมูลค่า 750,000 ล้านเยน (ราว 200,000 ล้านบาท) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาในกลุ่ม 5 ประเทศลุ่มน้ำโขงตลอดระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า วันนี้ (4 ก.ค.) ในขณะเดียวกับที่จีนเตรียมขยายอิทธิพลโดยการเปิดตัวธนาคารเพื่อการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (AIIB)
5 ประเทศลุ่มน้ำโขง ซึ่งได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา ไทย และเวียดนาม นอกจากจะมีแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดีแล้ว ยังเป็นตลาดสำคัญที่ญี่ปุ่นจะสามารถเข้าไปลงทุนด้านระบบราง โรงไฟฟ้า และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ
วงเงินสนับสนุนด้านการพัฒนา 750,000 ล้านเยนถูกประกาศในการประชุมซัมมิตระหว่างนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น กับบรรดาผู้นำกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขงที่กรุงโตเกียวในวันนี้ (4)
ในการประชุมเมื่อเดือนเมษายน ปี 2012 โตเกียวก็ได้ประกาศมอบความช่วยเหลือแก่ 5 ประเทศในภูมิภาคลุ่มน้ำโขงเป็นมูลค่า 600,000 ล้านเยนในช่วงเวลา 3 ปีเช่นกัน
จีนกำลังเร่งปรับปรุงกองทัพให้มีความทันสมัย และยังเข้าไปถมทะเลสร้างเกาะเทียมในบริเวณหมู่เกาะพิพาททะเลจีนใต้ จนกลายเป็นชนวนความตึงเครียดกับหลายประเทศในภูมิภาค
ที่ประชุมความร่วมมือญี่ปุ่น-ลุ่มน้ำโขงได้ประกาศถ้อยแถลงร่วม โดยมีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์การขยายอิทธิพลทางทะเลของจีนอย่างกลายๆ ว่า “ทั้ง 2 ฝ่ายมีความกังวลต่อพัฒนาการที่เกิดขึ้นในทะเลจีนใต้ ซึ่งจะยิ่งทำให้ข้อพิพาททวีความซับซ้อน บั่นทอนความเชื่อมั่นที่มีระหว่างกัน และอาจบ่อนทำลายสันติภาพ ความมั่นคง และเสถียรภาพของภูมิภาค”
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่งประกาศแผนมอบความช่วยเหลือ 110,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในเอเชีย ซึ่งประเด็นนี้สหรัฐฯ ชี้ว่า แตกต่างโดยสิ้นเชิงจากธนาคาร AIIB ของจีน ซึ่งอาจไม่ใส่ใจเรื่องการปกป้องสิ่งแวดล้อมเท่าที่ควร
ปัญหาหมู่เกาะพิพาทในทะเลจีนตะวันออก และความก้าวร้าวที่กองทัพจักวรรดิญี่ปุ่นเคยทำไว้กับเพื่อนบ้านในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ส่งผลทำให้ความสัมพันธ์โตเกียว-ปักกิ่งลุ่มๆ ดอนๆ ตลอดมา แม้ว่าทั้ง 2 รัฐบาลจะแสดงท่าทีเป็นมิตรกันมากขึ้น หลังจากนายกฯ อาเบะ และประธานาธิบดี สี่ จิ้นผิง ได้มีการประชุมซัมมิตกันเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วก็ตาม