รอยเตอร์ - บริษัท วัน มาเลเซีย ดีเวลลอปเมนต์ เบอร์ฮัด (1MDB) ซึ่งเป็นกองทุนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจมาเลเซียในระยะยาว ประกาศยืนยันวันนี้ (3 ก.ค.) ว่าไม่เคยมีการโอนเงินจำนวนมหาศาลให้แก่นายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค ตามที่เป็นข่าว หลังสื่อชั้นนำของอเมริกา วอลล์สตรีทเจอร์นัลออกมาเปิดโปงว่าเงินของธนาคาร หน่วยงานภาครัฐ และบริษัทที่เชื่อมโยงกับ 1MDB ถูกยักย้ายถ่ายเทไปเข้าบัญชีส่วนตัวของผู้นำแดนเสือเหลืองถึง 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ หากข้อมูลของวอลล์สตรีทเจอร์นัลเป็นจริง จะถือเป็นครั้งแรกที่นายกฯ นาจิบ ตกเป็นผู้ต้องหายักยอกเงินกองทุนของรัฐโดยตรง
โฆษกรัฐบาลเสือเหลืองรีบออกมาชี้แจงว่า นายกรัฐมนตรีไม่เคยนำเงินกองทุน 1MBD ไปใช้จ่ายส่วนตัว
“ตามที่สื่อต่างประเทศได้เผยแพร่รายงานเมื่อเช้าวันนี้ 1MDB ขอชี้แจงให้เข้าใจตรงกันว่า บริษัทไม่เคยโอนเงินกองทุนให้แก่ท่านนายกรัฐมนตรี” คำแถลงจาก 1MDB ระบุ
“การเสนอข้อมูลเป็นอื่นอย่างที่สื่อบางสำนักกำลังทำอยู่ ถือเป็นการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบ และจงใจบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของกองทุน”
กลุ่มบีเอ็นที่ผูกขาดอำนาจบริหารในมาเลเซียมาเกือบ 60 ปีกำลังถูกฝ่ายค้านสับเละเกี่ยวกับพฤติกรรมทุจริตคอรัปชันของคนในรัฐบาล รวมถึงปัญหาหนี้สินของกองทุน 1 MDB ที่พอกพูนจนเสี่ยงต่อการล้มละลาย แม้แต่อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ทรงอิทธิพลอย่าง มหาเธร์ โมฮัมหมัด ซึ่งเคยอุปถัมภ์ค้ำชู นาจิบ มาก่อนก็ยังเรียกร้องให้นายกฯ ลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ
วอลล์สตรีทอ้างผลสอบสวนของรัฐบาลซึ่งพบว่า เงินจากกองทุน 1MBD ถูกโอนเข้าบัญชี นาจิบ ราซัก ถึง 5 ครั้ง ในจำนวนนี้มีเงินก้อนใหญ่ 2 ก้อน (620 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ 61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ที่โอนให้ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง เดือนมีนาคม ปี 2013
1MDB ชี้ว่า ข้อกล่าวหาทั้งหมด “ไม่มีมูล” และเอกสารที่วอลล์สตรีทนำมาอ้างก็ยังไม่เคยถูกตรวจสอบว่ามีจริง และเชื่อถือได้จริงหรือไม่
นาจิบซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธานกรรมการที่ปรึกษาของกองทุน 1MDB ยืนกรานปฏิเสธข้อหายักยอกเงิน โดยชี้ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงแผนป้ายสีของพวกต่อต้านรัฐบาล
กองทุนเพื่อการพัฒนาที่ก่อตั้งโดยนาจิบ ถูกวิจารณ์ว่าบริหารเงินผิดพลาดจนมีหนี้สินพอกพูนเกือบ 11,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ