เอเอฟพี - สถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีประกาศตัดความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับ “โดนัลด์ ทรัมป์” เจ้าพ่อนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และดาราทีวีเรียลิตีโชว์ชาวอเมริกันซึ่งผันตัวมาเป็นผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี ภายหลังจากมหาเศรษฐีรายนี้ออกมาวิจารณ์เหยียดหยามผู้อพยพเม็กซิกันว่าเป็นพวก “ตัวปัญหา”
นั่นหมายความว่า เวทีประกวดขาอ่อนทั้งมิสยูเอสเอ และมิสยูนิเวิร์ส ที่ทรัมป์เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดจะไม่ออกอากาศผ่านช่องเอ็นบีซีอีกต่อไป และตัวทรัมป์เองก็ต้องหลุดจากรายการเรียลิตีโชว์ “The Apprentice” ที่เขาเป็นดาราตัวเอกอยู่ด้วย
ก่อนหน้านี้ 4 วัน สถานีโทรทัศน์ยูนิวิชันซึ่งเป็นเจ้าตลาดทีวีภาคภาษาสเปนในสหรัฐฯ ก็ออกมาตัดสัมพันธ์กับกองประกวดมิสยูนิเวิร์สเช่นกัน
สัปดาห์ที่แล้ว เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์รายนี้ประกาศตัวจะชิงตำแหน่งผู้แทนพรรครีพับลิกันในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2016 และใช้เวลา 45 นาทีพูดพล่ามโวยวายเรื่องต่างๆ ที่ระคายหูผู้ฟังทั้งในอเมริกาและต่างประเทศ
ชาวอเมริกันเชื้อสายฮิสแปนิกเป็นพลเมืองกลุ่มน้อยที่เติบโตเร็วที่สุดในสหรัฐฯ และส่วนใหญ่ก็เป็นลูกหลานผู้อพยพชาวเม็กซิโก
ทรัมป์กล่าวว่า “ตอนเม็กซิโกส่งคนมาให้เรา พวกเขาไม่ได้คัดเอาพวกที่ดีที่สุดมา... แต่กลับส่งพวกที่สร้างปัญหา และพวกนั้นก็เอาปัญหามาทิ้งไว้ที่เรา ทั้งเรื่องยาเสพติด อาชญากรรม โจรข่มขืน”
มิเกล อังเกล โอโซริโอ ชอง รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยเม็กซิโก ออกมาวิจารณ์คำพูดของ ทรัมป์ ว่าเต็มไปด้วย “อคติ” และ “หาสาระไม่ได้”
กลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิชาวอเมริกันเชื้อสายฮิสแปนิกล้วนประณามคำพูดของ ทรัมป์ ส่วนตัวเก็งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตอย่าง ฮิลลารี คลินตัน ก็ถือโอกาสนี้ถล่มมหาเศรษฐีปากพล่อยว่าพูดจายั่วยุให้เกิดความแตกแยก
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนทรัมป์จะยังไม่สะทกสะท้านกับเสียงก่นด่าทั้งหลาย เพราะเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เขายังออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลจังโก้จ่ายเงินสร้าง “กำแพง” กั้นระหว่างสหรัฐฯ กับเม็กซิโกเสียด้วย
“ผมจะต้องใช้วิธีรุนแรง ถ้าพวกเขาไม่ช่วยสนับสนุนหรือออกเงินสร้างกำแพง” ทรัมป์ กล่าวในรายการ State of the Union ทางสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น
“เราต้องรองรับคนสารพัดกลุ่มที่เดินทางข้ามแดนเข้ามา ซึ่งคนพวกนี้แย่... แย่มากๆ”
“ผมไม่ได้หมายถึงชาวเม็กซิกันเท่านั้นนะ แต่หมายถึงทุกๆ กลุ่ม ซึ่งมีทั้งฆาตกรและพวกโจรข่มขืนด้วย”
“เม็กซิโกปฏิบัติไม่ดีกับเรา ทำเหมือนเราเป็นพวกโง่เง่าเต่าตุ่น ซึ่งอันที่จริง... ผู้นำของประเทศเราก็เป็นอย่างนั้นเสียด้วย”