อังกฤษเตือนเหตุร้ายในตูนิเซียอาจเกิดขึ้นอีก แนะพลเมืองระมัดระวังตามแหล่งท่องเที่ยว

เอเอฟพี - รัฐบาลอังกฤษออกมาเตือนในวันอาทิตย์ (28 มิ.ย.) ว่าการโจมตีในตูนิเซียอาจเกิดขึ้นได้อีก พร้อมเรียกร้องให้ผู้ที่ยังคงอยู่ต่อในตูนิเซียจะต้องระมัดระวังให้มาก หลังจากที่เมื่อ 2 วันก่อนมีคนร้ายใช้ปืนยิงผู้คนเสียชีวิตไปมากถึง 38 ราย โดยในจำนวนนั้นเป็นชาวเมืองผู้ดี 15 ราย

เทเรซา เมย์ รัฐมนตรีมหาดไทยของอังกฤษ ระบุว่า ยอดจำนวนผู้เสียชีวิตที่เป็นชาวอังกฤษนั้นยังไม่เปลี่ยนแปลง เหตุครั้งนี้นับว่าเป็นการโจมตีที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เหตุระเบิดในลอนดอนเมื่อปี 2005 อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีผู้นี้ได้บอกกับบีบีซีว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตที่เป็นชาวอังกฤษคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีก

โทเบียส เอลวูด รัฐมนตรีต่างประเทศ ระบุเมื่อวันเสาร์ว่านักท่องเที่ยวอังกฤษได้รับบาดเจ็บรุนแรงเป็นจำนวนมาก ขณะที่หลายครอบครัวบอกว่ายังมีญาติพี่น้องของพวกเขาที่ไม่ได้ถูกนับรวมเข้าไป

เหตุร้ายที่ตูนิเซียครั้งนี้ถือเป็นความสูญเสียครั้งร้ายแรงที่สุดของอังกฤษ นับตั้งแต่มีคนเสียชีวิตไป 52 รายด้วยระเบิดฆ่าตัวตายในระบบขนส่งสาธารณะที่กรุงลอนดอน เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2005

เมย์บอกว่า ยังคงมีการเดินหน้าสืบสวนและทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับทางการตูนิเซียเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่า ที่นั่นตกเป็นเป้าการโจมตีเพราะมีนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ

มีชาวอังกฤษราว 20,000 คนไปเที่ยวช่วงวันหยุดในตอนที่เกิดเหตุโจมตีครั้งนี้ ทำให้บรรดาบริษัททัวร์ต้องทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อจัดหาเที่ยวบินให้แก่ผู้ที่ต้องการจะกลับบ้าน

ด้านกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษก็ได้เรียกร้องให้ผู้ที่ยังคงอยู่ต่อในตูนิเซียจะต้องระมัดระวังให้มาก พร้อมบอกด้วยว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุร้ายขึ้นอีก

“การโจมตีก่อการร้ายอาจเกิดขึ้นอีกในตูนิเซีย อย่างเช่นตามแหล่งท่องเที่ยว ทั้งจากบุคคลที่ทางการไม่รู้จัก รวมถึงจากผู้ที่กระทำการเพราะได้รับแรงบันดาลใจผ่านทางโซเชียลมีเดียจากกลุ่มก่อการร้าย” คำแถลงระบุ

กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวทียูไอ ซึ่งบริหารบริษัททัวร์ ทอมป์สัน ฮอลิเดย์ และ เฟิร์สชอยส์ ฮอลิเดย์ ได้ส่งเครื่องบิน 11 ลำในวันเสาร์ กับอีก 12 ลำในวันอาทิตย์ ไปรับตัวนักท่องเที่ยวที่ต้องการกลับบ้านในช่วงสุดสัปดาห์ราว 2,500 คน

ในบรรดาผู้เสียชีวิตที่เป็นชาวอังกฤษมี 3 รายที่มาจากครอบครัวเดียวกัน ประกอบด้วย โจเอล ริชาร์ด นักศึกษาวัย 19 ปี กับลุงและปู่ของเขา

ส่วนอีก 39 รายที่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีที่กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ออกมายอมรับว่าเป็นผู้ลงมือนั้น เป็นชาวอังกฤษถึง 25 ราย

เหตุร้ายครั้งนี้เกิดขึ้นในวันเดียวกับที่มีการระเบิดมัสยิดในคูเวต ซึ่งกลุ่มไอเอสก็ออกมายอมรับว่าเป็นผู้ลงมือเช่นกัน รวมถึงเป็นวันเดียวกับที่มีการโจมตีโรงงานในฝรั่งเศสโดยฝีมือของมุสลิมหัวรุนแรง

รัฐบาลอังกฤษได้จัดประชุมฉุกเฉินไปแล้ว 2 ครั้งในวันศุกร์และวันเสาร์ โดยที่เมย์บอกว่ามีกำหนดจะเข้าร่วมการประชุมครั้งที่ 3 ในวันอาทิตย์