รอยเตอร์ - รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์แนวทางที่รัฐบาลจีนใช้ตอบสนองปัญหาทะเลจีนใต้ โดยชี้ว่าการที่จีนเข้าไปถมทะเลสร้างเกาะเทียมเพื่ออ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำพิพาท ไม่ต่างจากการที่รัสเซียบุกยึดแหลมไครเมียไปจากยูเครน
แอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวปาฐกถาที่ศูนย์เพื่อความมั่นคงอเมริกันใหม่ (Center for a New American Security) โดยระบุว่า โครงการถมทะเลสร้างเกาะเทียมของจีนกำลังเป็น “ภัยคุกคามต่อสันติภาพและเสถียรภาพ” ในภูมิภาค
บลินเคน ย้ำว่า สหรัฐฯ “ไม่ได้เลือกข้างฝ่ายใด” ทั้งสิ้น แต่ให้ความสนใจกับวิธีการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ และต้องการปกป้องเสรีภาพในการเดินเรือ
“วิธีแก้ปัญหาสำหรับจีนและทุกๆ ประเทศที่อ้างกรรมสิทธิ์ก็คือ ต้องยุติการแปรสภาพที่ดินทุกรูปแบบ และหันมาเจรจาคลี่คลายความเห็นต่างด้วยข้อกฎหมาย”
“ไม่ว่าจะในยูเครนตะวันออกหรือทะเลจีนใต้ เราต่างได้เห็นการใช้กำลังฝ่ายเดียวเพื่อเปลี่ยนแปลงสถานะในปัจจุบันของพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการรุกรานที่สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรไม่เห็นด้วย”
จีนนั้นอ้างอธิปไตยเหนือน่านน้ำเกือบทั้งหมดในทะเลจีนใต้ และยืนยันว่ามีสิทธิ์จะเข้าไปสร้างเกาะเทียมเหนือแนวปะการังที่เป็นข้อพิพาทอยู่กับหลายๆ ประเทศ
หยาง เจียฉือ มนตรีแห่งรัฐจีน ได้ให้สัมภาษณ์หลังพูดคุยกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ว่า รัฐบาลจีนขอรับรองเสรีภาพในการเดินเรือผ่านทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าทางทะเลที่มีมูลค่าสูงถึง 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี
การแสดงความคิดเห็นของ บลินเคน มีขึ้นในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์สหรัฐฯ และจีนกำลังเขม็งเกลียว เนื่องจากจีนเริ่มแผ่อิทธิพลอย่างแข็งกร้าวในเอเชีย และยังเป็นผู้ต้องสงสัยหลักในเหตุโจมตีทางไซเบอร์ต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์ในสหรัฐฯ
เมื่อวันพฤหัสบดี (25) เจมส์ แคลปเปอร์ ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่า จีนอาจอยู่เบื้องหลังการเจาะระบบของสำนักงานจัดการบุคลากรสหรัฐฯ (Office of Personnel Management) ซึ่งทำให้ข้อมูลส่วนตัวของชาวอเมริกันหลายล้านคนรั่วไหลออกไป
นับเป็นครั้งแรกที่รัฐบาล บารัค โอบามา ออกมากล่าวหาจีนอย่างโจ่งแจ้งว่าเป็นตัวการแฮ็กระบบคอมพิวเตอร์ แต่ แคลปเปอร์ ก็ชี้ว่า ทุกอย่างยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ
หลู กัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ออกมาตอบโต้สมมติฐานของสหรัฐฯว่า “ไร้ตรรกะ”
แดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออก กล่าวเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้วว่า โอกาสที่จะถูกตะวันตกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจคงทำให้จีนไม่กล้าใช้กำลังเข้ายึดน่านน้ำในทะเลจีนใต้เหมือนเช่นที่รัสเซียทำกับแหลมไครเมีย และปักกิ่งก็น่าจะทราบดีว่า สหรัฐฯ พร้อมยืดหยัดปกป้องพันธมิตรในเอเชียอย่างแน่นอน