เอเอฟพี - การเจรจาอันเคร่งเครียดของเหล่าผู้นำยูโรโซนเพื่อหาทางฝ่าทางตันวิกฤตหนี้กรีซ ยุติลงโดยปราศจากข้อตกลงใดๆ ในวันพฤหัสบดี (18 มิ.ย.) ขณะที่ไอเอ็มเอฟเตือนเอเธนส์ว่าจะไม่เลื่อนกำหนดเวลาชำระหนี้แก่กรีซในช่วงสิ้นเดือนนี้ ส่อเค้ามากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเอเธนส์อาจผิดนัดชำระหนี้และออกจากยูโรโซน
เข็มนาฬิกาแห่งวิกฤตขยับใกล้เวลาเที่ยงคืนทุกขณะ หลังจากที่ประชุมของเหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศยูโรโซนในลักเซมเบิร์ก ล้มเหลวในการหารือฝ่าทางตันข้อตกลงปฏิรูปที่อาจช่วยหลุดพ้นหายนะจากกรณีที่กรีซต้องออกจากยูโรโซน
“ไม่มีข้อตกลง ณ ที่ประชุมยูโรกรุ๊ป” วาลดิส ดอมโบรฟสกีส์ รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปบอกหลังจากโต๊ะประชุมต้องยุติลง ตามหลังการหารือในประเด็นกรีซราวๆ 90 นาที แต่เขาบอกว่า “มันเป็นสัญญาณที่แข็งกร้าวสำหรับกรีซว่าต้องมีส่วนร่วมอย่างจริงจังในการเจรจา” ขณะที่แหล่งข่าวรายหนึ่งพูดกับเอเอฟพีว่าผลลัพธ์ของการหารือครั้งนี้ถือว่าเป็นเรื่องน่าเศร้า
อย่างไรก็ตาม นายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานอียู แถลงอย่างรวดเร็วว่าจะจัดประชุมซัมมิตฉุกเฉินของเหล่าผู้นำ 19 ชาติสมาชิกยูโรโซนที่บรัสเซลส์ในวันจันทร์หน้านี้ (22 มิ.ย.) โดยบอกว่ามันเป็นเวลาที่ต้องหารือกันอย่างเร่งด่วน สำหรับหยิบยกสถานการณ์ของกรีซมาพูดคุยกันในระดับผู้นำสูงสุดทางการเมือง ทั้งนี้ซัมมิทดังกล่าวจะมีขึ้นก่อนหน้าที่ประชุมเหล่าผู้นำอียูทั้ง 28 ประเทศ ซึ่งกำหนดไว้ในวันพฤหัสบดี(25มิ.ย.)และวันศุกร์ (26 มิ.ย.)
อเล็กซิส ซีปราส นายกรัฐมนตรีซ้ายจัดของกรีซ ปฏิเสธปฏิรูปในด้านบำนาญและอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มตามคำเรียกร้องของเหล่าเจ้าหนี้นานาชาติเพื่อแลกกับการขยายเวลาโครงการเงินช่วยเหลืออันมหาศาลจากอียูและไอเอ็มเอฟ โดยเหล่าเจ้าหนี้ปฏิเสธจ่ายเงินงวดสุดท้าย 7,200 ล้านยูโรจากโครงการช่วยเหลือเดิม หากไม่มีข้อตกลงปฏิรูปใดๆ และกรีซจะไม่เหลือเงินสดอีกเลย หากไม่มีข้อตกลงขยายโครงการกู้ยืม
นายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ปแถลงกับผู้สื่อข่าวว่าเวลาใกล้หมดแล้ว และบอกว่าตอนนี้ลูกบอลอยู่ทางฝั่งของกรีซ ส่วนปิแอร์ มอสโกวิซี กรรมาธิการเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป เรียกร้องประนีประยอมอย่างสมเหตุสมผลเพื่อหลีกเลี่ยงหายนะอันเกี่ยวพันกับเอเธนส์
หากไม่ได้รับเงินช่วยเหลืองวดสุดท้าย นั่นเท่ากับว่ากรีซจะไม่สามารถชำระหนี้จำนวน 1,6000 ล้านยูโรคืนแก่ไอเอ็มเอฟในวันที่ 30 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันเดียวกับโครงการช่วยเหลือหมดอายุลง ในขณะที่นายใหญ่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คริสติน ลาการ์ด แถลงกร้าวเตือนรัฐบาลกรีซในวันพฤหัสบดี (18 มิ.ย.) ว่า ไม่สามารถเลื่อนการจ่ายหนี้ก้อนโตที่ถึงกำหนดในสิ้นเดือนนี้ได้อีกแล้ว
ลาการ์ดประกาศออกมาเช่นนี้ ในเวลาเดียวกับที่ อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ซึ่งเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของกรีซ แถลงว่าเธอยังคงเชื่อมั่นว่ามีความเป็นไปได้ที่จะทำข้อตกลงเพื่อช่วยชีวิตกรีซให้พ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ซึ่งอาจตามมาด้วยการที่เอเธนส์ถูกขับออกไปจากการใช้สกุลเงินยูโร ทั้งนี้ถ้าเอเธนส์ยอมอ่อนข้อประนีประนอม
อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นดังกล่าวสวนทางกับอารมณ์แห่งความมืดมัวที่ปกคลุมการประชุมในลักเซมเบิร์ก ด้วยเหล่ารัฐมนตรีหลายคน เริ่มพูดคุยอย่างเปิดเผยถึงกรณีความเป็นไปได้ต่างๆ อย่างเช่นกรีซต้องออกจากยูโรโซนหากผิดนัดชำระหนี้
หากปราศจากเงินช่วยเหลืองวดสุดท้ายและพลาดเส้นตายชำระหนี้ของไอเอ็มเอฟ ก็จะเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีที่กรีซถูกโดดเดี่ยวทางการเงินเพียงลำพัง และด้วยเงินทุนที่ว่างเปล่า ทุกสายตาจึงจับจ้องว่าจากนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้น
“ทางเลือกอื่นคือเตรียมแผนบี” ไมเคิล นูนาน รัฐมนตรีคลังไอร์แลนด์บอก พร้อมระบุว่าเขาไม่กลัวผลกระทบต่อเนื่องในกรณีที่กรีซต้องออกจากยูโรโซน ส่วนอเล็กซ์ สตับบ์ รัฐมนตรีคลังฟินแลนด์ บอกว่า “ทางเลือกที่ 1 คือขยายเงินกู้ ส่วนแผนบีคือผิดนัดชำระหนี้”
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (17) ถือเป็นครั้งแรกที่ธนาคารกลางของกรีซเอง ได้ออกมาแถลงเตือนว่าหากไม่สามารถตกลงกับเจ้าหนี้ได้ เอเธนส์อาจต้องออกจากยูโรโซนหรือกระทั่งออกจากอียูด้วยซ้ำ