เอเอฟพี - สื่อต่างประเทศรายงาน ไทยยืนยันในวันพฤหัสบดี(18มิ.ย.) พบผู้ติดเชื้อเมอร์สรายแรก เป็นชายวัย 75 ปีที่เพิ่งเดินทางกลับจากโอมาน ส่งสัญญาณว่าไวรัสชนิดนี้เริ่มแผ่ลามในเอเชีย นับตั้งแต่แพร่ระบาดอย่างหนักในเกาหลีใต้ คร่าชีวิตประชาชนไปแล้ว 23 ศพ ขณะที่ผอ.อนามัยโลกเชื่อโสมขาวจะสามารถควบคุมสถานกาณ์ได้ และชี้ว่าอย่างน้อยๆก็มีข่าวดีคือยังไม่พบการกลายพันธุ์ของมัน
ไวรัสกลุ่มอาการทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (เมอร์ส) แพร่ระบาดในอัตราที่รวดเร็วอย่างน่ากังวลในเกาหลีใต้ นับตั้งแต่วินิจฉัยพบไวรัสมรณะนี้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม โดยนอกจากผู้เสียชีวิตข้างต้นแล้ว ในแดนโสมขาวยังพบผู้ติดเชื้ออีก 165 คน ถือเป็นการแพร่ระบาดเลวร้ายที่สุดนอกซาอุดีอาระเบีย
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่าไทยที่ตลาดการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์กำลังเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ป่วยจากตะวันออกกลาง แถลงพบคนไข้ที่มีผลตรวจเมอร์สออกมาเป็นบวกรายแรกในวันพฤหัสบดี(18มิ.ย.) หลังจากผลตรวจคนอื่นๆราว 20 คนก่อนหน้านี้ออกมาเป็นลบ
ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเผยว่า "ชายคนนี้มาจากประเทศตะวันออกกลาง ผลตรวจยืนยันว่าเขาติดเชื้อไวรัสกลุ่มอาการทางเดินหายใจตะวันออกกลาง" และบอกว่าชายคนดังกล่าวเดินทางเข้าประเทศไทยพร้อมกับครอบครัวเมื่อ 3 วันก่อน
เอเอฟพีอ้างคำกล่าวของโฆษกรัฐบาลบอกกับผู้สื่อข่าวในเวลาต่อมาว่าชายคนนี้มาจากโอมานและได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกลางกรุงเทพฯเพื่อรักษาโรคหัวใจ หลังจากเข้ารับการตรวจหาเชื้อเมอร์สแล้ว เขาถูกเคลื่อนย้ายไปยังโรงพยาบาลสถาบันบำราศนราดูร ในจังหวัดนนทบุรีในตอนเช้าวันพฤหัสบดี(18มิ.ย.)
สื่อต่างประเทศแห่งนี้รายงานด้วยว่าเจ้าหน้าที่กำลังติดตามเหล่าผู้โดยสารที่อยู่บนเที่ยวบินเดียวกัน เช่นเดียวกับใครก็ตามมีสัมผัสกับชายคนดังกล่าวระหว่างที่เขาใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ "เรามั่นใจว่า เราสามารถควบควมการแพร่ระบาดได้" พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุในคำแถลง พร้อมระบุว่ได้กำหนดมารตรการควบคุมการแพร่ระบาดแล้ว ในนั้นรวมถึงสังเกตอาการสมาชิกในครอบครัวของผู้ป่วย 3 คน
ก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดี(18มิ.ย.) นางมากาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก(WHO) มองในแง่ดีอย่างระมัดระวังต่อความสามารถในการยับยั้งการแพร่ระบาดของเมอร์สของเกาหลีใต้ หลังจากเดิมที WHO ได้ให้คำจำกัดความการแพร่ระบาดของไวรัสนี้ว่าเป็นเหมือนสัญญาณปลุกให้ทุกคนตื่นขึ้น
"การประเมินของเราในปัจจุบันต่อสถานการณ์เมอร์สในเกาหลีใต้ คือตอนนี้รัฐบาลยืนหยัดได้ดี" เธอบอกกับผู้สื่อข่าว พร้อมบอกว่าสถานการณ์ยังไม่เข้าองค์ประกอบาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ "การแพร่ระบาดเมอร์สกำลังถูกดึงเข้าสู่การควบคุม แม้อาจต้องใช้เวลามากกว่าที่หลายฝ่ายอยากเห็น"
ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกรายนี้เผยรัฐบาลเกาหลีใต้ยอมรับว่าพวกเขาเริ่มต้นดำเนินการล่าช้า แต่ได้เพิ่มความพยายามอย่างรวดเร็วและอย่างเป็นระบบ ซึ่งผลก็คือจำนวนที่ลดลงของผู้ติดเชื้อรายใหม่ และข่าวดีอีกอย่างก็คือเหล่านักวิทยาศาสตร์ไม่ตรวจพบการกลายพันธุ์ของยีนในไวรัส
ความเห็นของชาน มีขึ้นในขณะที่กระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้รายงานพบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 ศพและมีผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 3 คน แม้ว่าเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ ทางการเชื่อว่าเกาหลีใต้ผ่านพ้นจุดเลวร้ายสุดของวิกฤตมาแล้ว
องค์การอนามัยโลกบอกเมื่อวันพุธ(17มิ.ย.) การขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเมอร์สในหมู่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและประชาชนคือปัจจัยหลักที่กระพือการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว และเผยว่ามีการยืนยันพบไวรัสเมอร์สใน 4 ชาติเอเชีย ก่อนหน้าไทย ได้แก่จีน เกาหลีใต้ มาเลเซียและฟิลิปปินส์ นับตั้งแต่ไวรัสมรณะชนิดนี้ปรากฎตัวขึ้นในซาอุดีอาระเบียครั้งแรกในปี 2012
เวลานี้มีประชาชนมากกว่า 6,700 คนกำลังถูกกักกันโรคในเกาหลีใต้ ในความพยายามยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสเมอร์ส เพิ่มขึ้นจากวันพุธ(17มิ.ย.) อยู่ร้อยละ 3 ส่วนอีก 4,500 คนได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้
อย่างไรก็ตามได้เกิดความกังวลจากรายงานข่าวที่บอกว่าผู้ติดเชื้อบางรายหลบหนีมาตรการกักกันโรค ซึ่งกัดเซาะความพยายามของรัฐบาลในการบรรเทาความวิตกของประชาชนต่อไวรัสชนิดนี้ที่เพิ่มก่อความเสียหายแก่เศรษฐกิจที่เปราะบางของประเทศ