เอเอฟพี - เหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงที่เนปาลเมื่อเดือนเมษายน ส่งผลให้ยอดเขา “เอเวอเรสต์” ซึ่งสูงที่สุดในโลกเคลื่อนที่จากตำแหน่งเดิมไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ราว 3 เซนติเมตร สื่อรัฐบาลจีนรายงานวันนี้ (16 มิ.ย.)
หนังสือพิมพ์ไชนา เดลี ได้อ้างข้อมูลจากสำนักงานสำรวจ จัดทำแผนที่ และข้อมูลภูมิศาสตร์แห่งชาติจีน พบว่าแผ่นดินไหวขนาด 7.8 ตามมาตราแมกนิจูดในเนปาลเมื่อวันที่ 25 เม.ย. ทำให้แนวโน้มการเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเทือกเขาแห่งนี้เปลี่ยนแปลงไป
รายงานของจีนระบุว่า ก่อนจะเกิดแผ่นดินไหวยอดเขาเอเวอเรสต์มีการขยับไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือราว 40 เซนติเมตรในช่วงเวลา 1 ทศวรรษ โดยเคลื่อนที่ในอัตราเร็ว 4 เซนติเมตรต่อปี ขณะที่ความสูงของเทือกเขาก็เพิ่มขึ้น 3 เซนติเมตรในช่วงเวลาเดียวกัน
แผ่นดินไหวครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 80 ปีของเนปาลทำให้เกิดหิมะถล่มบนยอดเอเวอเรสต์ คร่าชีวิตนักปีนเขาไป 18 คน และทำให้เบสแคมป์พังเสียหายยับเยิน ทางการจีนและเนปาลต้องประกาศห้ามการปีนพิชิตยอดเอเวอเรสต์ตลอดทั้งปีนี้เพื่อป้องกันอันตราย
ยอดเขาเอเวอเรสต์เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัยซึ่งทอดขนานตามแนวพรมแดนระหว่างเนปาลและจีน
แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นระลอกแรกเมื่อวันที่ 25 เม.ย. และอีกครั้งในวันที่ 12 พ.ค. ทำให้มีผู้เสียชีวิตในเนปาลถึง 8,700 คน และยังก่อให้เกิดดินถล่ม บ้านเรือนพังเสียหายหลายแสนหลัง และทำให้ชาวเนปาลหลายพันคนยังต้องไร้บ้านอยู่ ในช่วงที่ฤดูมรสุมกำลังย่างใกล้เข้ามา
ไชนาเดลีระบุว่า แผ่นดินไหวครั้งที่ 2 วัดความรุนแรงได้ 7.3 ไม่ได้ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนที่ของยอดเอเวอเรสต์เหมือนเช่นครั้งแรก